หลักการเลือกซื้อที่นอน และสเป็กที่นอนโดยเฉพาะ OmaZZ Slumberland Sealy Lotus Dunlpoillo

                 ผมเองโดยปกติ ผมจะตอบปัญหาเรื่องเกี่ยวกับที่นอน ส่วนใหญ่จะอยู่ในเว็บ pantip นะครับ

โดยพี่พี่หลาย ๆ ท่านจะรู้จักผมใน ชื่อของ น้อง ธันวา หรือคุณ เอกลักษ์ ครับ

ที่พี่พี่หลาย ๆ ท่านเลียกครับ

แต่ในครั้งนี้ผมเองต้องการเอาข้อมูลจากสิ่งที่ผมทำจากในกระทู้  pantip  มารวบรวม และเรียบเรียงใหม่นะครับ

เพื่อให้ช่องทาง blogger ตรงนี้เป็นส่วน 1 ของผู้ที่มีความสนใจเรื่องที่นอนที่ต้องการหาข้อมูลมาอ่านเพื่อเป็นไอเดีย และเป็น บรรทัดฐาน หรือเบส เบื่องต้นในการเลือกซื้อที่นอนครับ

 

ซึ่งกระทู้ใน pantip ที่ผมให้ความรู้เรื่องที่นอนอยู่นั้น คือ ลิ้งนี้นะครับ

http://pantip.com/topic/33656834

ซึ่งถ้าพี่พี่ท่านไหน มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่นอน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับที่นอน

 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งาน สเป็ก และเปรียบเทียบราคา พี่พี่สามารถโพสมาถามได้เลยนะครับ

ผมธันวา ยินดีให้ความรู้และตอบข้อสงสัยเรื่องที่นอนอย่างเต็มที่ครับผม


หรือถ้าพี่ท่านไหน ไม่ได้รักการอ่าน หรือต้องการความกระจ่างด้วยความรวดเร็วนั้น

รบกวนพี่โทรมาคุยได้เลยครับผม

084-076-7991

 

 facebook ร้านผมนะครับ   www.facebook.com/ekaluk.mattress  ฝากพี่พี่ด้วยนะครับผม

 

ก็ถ้าชอบก็กด like ถ้าคิดว่าใช้ก็กด share และติดตามเพจได้เลยนะจ๊ะ

ผมเองมี update อยู่ตลอดเวลาครับผม


 
..............................................................................................................
 

 

 ถึงแม้ผมเองจะอยู่หน้ากระทู้ขายของ หรือ blogger ... แต่ผมเองก็ไม่ได้เน้นขายของนะครับ (เมื่อก่อนอยู่ห้องรีวิวแต่โดนอุ่ม เลยมาห้องดีดีกว่าครับปลอดภัย ) พี่พี่ท่านไหนมีปัญหาเรื่องที่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเปรียบเทียบสเป็กเรื่องรุ่น หรือ การเครมซ้อมแซม แจ้งเครมที่นอน หรือรับประกันหลังการขาย พี่พี่ก็สามารถเข้ามาโพสถามผมได้เลยนะครับผม ผมเชื่อว่าโดยคำตอบของผมน่าจะเป็นไอเดียที่ดี หรือแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดีให้แก่พี่พี่ได้ครับ จากประสบการที่ผมอยู่ในวงการที่นอนมาเป็น 10 ปี ผมเชื่อว่า ผมน่าจะช่วยพี่พี่ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ และทุกคำถามของพี่พี่และทุก ๆ คำตอบ...นั้นจะเป็นคำตอบของพี่พี่ท่านอื่น ๆ ต่อ ๆ ไป ที่พี่เค้าเข้ามาอ่านและมีข้อสงสัยแบบเดียวกับพี่พี่นะครับ ก็ถ้ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกบที่นอนสามารถโพสมาถามหรือโทรมาคุยได้เลยนะครับผม

  ผมเองใจจริงลึก ๆ อยากให้ พี่พี่มองผมเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องมากกว่าพ่อค้านะครับ เพราะผมทำตรงนี้มา ไม่ได้เน้นขายแต่เน้นให้ความรู้และตอบข้อสงสัย ที่เกี่ยวกับปัญหาเรืองที่นอน  โดยที่ไม่ได้หวังอะไรนะครับ

ผมเชื่อนะครับว่า มิตรภาพดีดีเกิดขึ้นได้ง่ายมากครับ

  พี่พี่ท่านไหนมีข้อสงสัยเรื่องที่นอน และเน้นความรวดเร็วก็สามารถโพสมาถามได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมเองยินดีให้ความรู้ และตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับที่นอน และรวมไปถึง...แนวทางการแก้ปัญหา ให้แก่พี่พี่อย่างเต็มที่ นะครับ

แต่ถ้าพี่พี่ท่านไหน เน้นรักการอ่าน หรืออยากหาข้อมูลเบื่องต้นเกรี่ยวกับที่นอน OmaZZ Slumberland Sealy Lotus Dunlpoillo และ La-z-boy  ก็สามารถเลื่อนลงมาอ่านได้เลยครับ    

ขอบคุณพี่พี่มากนะครับที่ เข้ามาถามและติดตามอ่านครับผม

 

สวัดดีพี่พี่ครับ

ก็อย่างที่พี่พี่อ่านตามหัวข้อเลยครับ

ผมเอง...ยินดีให้ความรู้และตอบข้อสงสัยและก็จะมี review เกี่ยวกับตัวที่นอนโดยเฉพาะ OmaZZ Slumberland Sealy Lotus Dunlpoillo และ La-z-boy ครับ

 
( ถ้าพี่พี่ท่านไหนชอบ หรือพี่พี่ท่านไหนนั้นมองว่ากระทู้ที่ผมทำนั้นมีประโยชน์ รบกวนพี่พี่กด like ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจครับ ขอบคุณครับผม )
 
ผม ธันวา นะครับ ผมเชื่อว่าพี่พี่หลาย ๆ ท่านอาจจะรู้จักผมอยู่แล้ว หรือพี่พี่หลาย ๆ ท่านอาจจะคุ้นเคยหรือเคยเห็นผมตามกระทู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับที่นอน ในการถามตอบ และให้คำแนะนำ หรือปรึกษา ซึ่งปกติผมเองจะมีอีก 1 กระทู้นะครับ ซึ่งพี่พี่ท่านไหนสนใจก็เข้ามาถามและผมเองจะเข้าไปตอบให้ ถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลเลยครับ .... เพราะมีการอธิบาย และถามตอบกันอยู่ 1,000 กว่ากระทู้ ซึ่งบอกตามตรงเสียดายมากครับ เพราะโดนอุ้มไปและ .... ตอนนี้ที่มีก็มีแต่กระทู้อันแรกครับ ซึ่งถ้าพี่พี่ท่านไหนรักการอ่านก็สามารถ เข้าไปเพื่อดูและอ่านหาข้อมูลได้เลยครับ
ในความรู้เบื่องต้นครับผม
 
 
 
 
แต่พอคิดอีกที....ก็ถือว่าดีเหมือนกันครับ เพราะผมเองจะได้ถือโอกาสนี้ ในการ update สเป็ค
ณ ปัจจุบันให้ให้พี่พี่ได้เลยครับ
เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา....เรียนพี่พี่ตามตรงคับ ที่นอนมีการเปลี่ยนแปลงสเป็ค และเพิ่มรุ่น และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเยอะเลยครับ ซึ่งตรงนี้ ผมเองขออาสามารวบรวมและเรียบเรียงไว้ให้อ่านเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ใช้ในการตัดสินใจและเลือกซื้อนะครับผม

 

           ในการทำกระทู้นี้ผมเองขอออกตัวก่อนเลยนะครับ ผมเองยังมีจุดประสงค์ และจุดยืน เหมือนเดิม เหมือนอย่างที่เคยทำมานะครับ คือ ผมเองทำกระทู้นี้ไว้เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง ให้แก่พี่ที่มีความสนใจเรื่องที่นอน และต้องการจะเข้ามาหาข้อมูลเบื่องต้นในการเลือกซื้อที่นอน จนถึง ข้อมูลเชิงลึก ในรุ่นต่างๆ นะครับ ไม่ได้มีจุดประสงค์การขายนะครับ เพราะ รุ่นที่นอนที่ผมแนะนำไป ทุกรุ่นส่วนใหญ่เป็นรุ่นที่เป็นรุ่นมาตรฐาน พี่สามารถหาซื้อได้ที่ไหนก็ได้ครับ สุดแล้วแต่ใจเลยนะครับ แต่อยากให้กระทู้นี้เป็นข้อมูลในการเปรียบเทียบสเป็คในรุ่นต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการที่ผมพิม รีวิวเองก็ดี หรือ เกิดจากสิ่งที่พี่สงสัย และถามมาในกระทู้นี้เองก็ดีนะครับ ซึ่งทุกคำถาม ที่พี่ถามมา จะมีคำตอบจากผมทุกคำถามนะครับ และทุกคำถามที่พี่ถามก็จะถือว่าเป็นข้อมูลให้แก่ท่านใหม่ๆ ที่พึ่งเข้ามาอ่านในครั้งต่อไปนะครับ หรือพี่ท่านไหนเบื่อไม่ชอบอ่านแบบยาว ๆ ก็สามารถโพสมาถามผมได้เลยครับผม ผมเองยินดีตอบและให้คำปรึกษารวมไปถึงให้คำแนะนำอย่างเต็มที่นะครับ
 
 
.......................................................................................................
 
 
ย้ำนะครับ....พี่อ่านข้อมูลจากผม พี่ถามผม ผมตอบพี่ แต่ไม่จำเป็นนะครับว่าพี่พี่จะต้องมาซื้อของจากผม พี่ซื้อที่ไหนก็ได้นะครับสุดแล้วแต่ใจพี่เลยครับ ซื้อร้านไหนแล้ว....พี่ซื้อแล้วสบายใจพี่ซื้อได้เลยนะครับ ได้เลยนะครับ  ส่วนพี่สงสัยตรงไหน อยากร้ตรงไหนหรือมีปัญหาตรงไหนเกี่ยวกับเรื่องที่นอนพี่ถามผมได้เลยนะครับ
 
ผมเองทราบนะครับว่าสิ่งที่ผมทำตรง มีทั้งพี่พี่ที่ชอบ และพี่พี่ที่ชอบ ก็เอาเป็นว่า สำหรับพี่พี่ที่ชอบ ผมเองก็ขอขอบคุณพี่พี่มากนะครับที่ติดตามอ่านกระทู้ทีผมทำในตรงนี้และหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับพี่พี่ไม่มากก็น้อยนะครับ  แต่สำหรับพี่พี่ที่ไม่ชอบตรงนี้ผมเองก็ต้องขอโทษพี่พี่ด้วยนะครับเพราะสิ่งที่ผมทำไปนั้นอาจจะไปขัดต่อผมประโยชน์ที่พี่ได้รับ เอาเปนว่าถ้าพี่อ่านไปแล้วสิ่งที่ผมพิมไปนั้นซึ่งเกิดจากความคิดเห็นของผมทำให้พี่ขัดดู ขัดตา ผมเองก็ต้องขอโทษพี่พี่ไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ และอยากจะให้พี่พี่เก็บส่วนที่ดีดีจากกระทู้นี้ไปเพื่อพี่พี่ซักวันนี้อาจจะได้ใช้ประโยชน์จากมันนะครับ
ส่วนเรื่องที่ผมทำอะไรไปแล้วขัดหูขัดตาพี่พี่ก็ขอให้พี่พี่ข้าม ๆ อ่าน หรือไม่ต้องไปอ่านมันหรือโยนทิ้งมันไปได้ก็ยิ่งดีครับผม
และก็ขอขอบคุณพื้นที่ดีดีจาก pantip และ blogger นะครับ และหวังว่ากระทู้นี้ผมเองจะไม่โดนอุ่มไปอีกนะครับ
 
 
....................................................................................................
 
 
 

หลายคนอาจจะสงสัยว่าผมเป็นใคร มาจากไหน และข้อมูลของน้อง ธันวา ที่ตอบเกี่ยวกับที่นอนเชื่อได้แค่ไหน

 
 
 
 
 
 
 
 

งั้นผมขอแนะนำตัวโดยย่อ ให้พี่พี่ได้ทราบกันนะครับ ...

บ้านผมเอง เป็น ตัวแทนจำหน่ายใหญ่ในประเทศครับ

 ทางด้านฝั่งร้านค้าที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องที่นอนในยี่ห้อหลัก  ๆ  ในประเทศครับ ซึ่งหน้าที่หลักของผม  ก็คือ  ต้องคอยดิวราคาที่นอนมาเป็นล็อตๆ และกระจายส่งตามสาขา  (  ในบ่อยครั้งกับพี่พี่หลาย ๆ ท่านซึ่งติดตามอ่าน  และโทรมาคุยกับผม  และมองผมเป็น เพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง มากกว่าเป็นพ่อค้าครับ  ซึ่งถ้าพี่ใจมาตรง ๆ พร้อมมิตรภาพ  ผมเองก็พร้อมใจกลับแบบตรง ๆ พร้อมมิตรภาพเช่นเดียวกันครับ  ผมเองอาจจะดูลูกทุ่งนิดนึงนะครับ)  ซึ่ง ผมเองอยู่  ณ   จุดนี้มาประมาณ 10 กว่าปีและครับ และรวมอายุที่อยู่ในวงการที่นอนอยู่ประมาณ  17-18  ปีและครับ ซึ่งผมเรียนพี่ตามตรงครับ  ผมเองไม่มีที่นอนที่นอนประจำครับ เดี๋ยวสักพักก็มีที่นอนใหม่  ๆ จากหลาย  ๆ  ยี่ห้อมาให้ผมเทสอยู่บ่อย ๆ ซึ่งอย่างเร็ว  3-4  อาทิตย์ อย่างช้า  1-2 เดือน  ผมเองก็ต้องเปลี่ยนที่นอนไปเรื่อยๆ  ครับ  แล ะ ผมเองก็ต้องลองนอนลองเทสไปเรื่อย  ๆ  เลยทำให้ผมทราบถึงฟิวและสเป็คที่นอนในหลายรุ่นและหลากหลายยี่ห้อ  ซึ่งผมเชื่อว่าจากประสบการณ์ที่ผมมีน่าจะช่วยพี่พี่ได้  ไม่มากก็น้อยนะครับ .... ในการวิเคราะห์และเทียบ สเป็คให้พี่พี่ได้ครับ  ตรงนี้ผมเองนอกเรื่องมาเยอะและครับ  งั้นผมเองขอเข้าเรื่องการแนะนำที่นอนเลยนะครับ

 

.....................................................................................
 

ความสำคัญของที่นอนครับ

  

ที่นอน ที่นอน ที่นอน ที่นอน ถือว่าเป็นสินค้า หรือ เฟอร์นิเจอร์ ที่ถือว่าน่าอาภัพมาก เพราะเป็นสินค้าชิ้นเดียวที่พี่พี่ซื้อแพง ๆ ไปไว้ที่บ้านแต่ไม่สามารถโชว์ได้เลย ทำให้พี่หลาย ๆ ท่านมองข้ามไป หรือไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับมันเท่าไหร่ .... แต่เพราะคำว่าไม่ได้โชว์ตรงนี้แหละครับ มันมีอะไรที่ซ่อนอยู่เยอะมากครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ หรือ เรื่องสุขภาพจิตของพี่ ก็ขึ้นอยู่ที่นอนนี่แหละครับ ที่ผมบอกแบบนี้เพราะ ถ้าพี่ไม่ใช้ความสำคัญ ในการเลือกซื้อที่นอน คิดไปว่านอนแบบไหนก็ได้ อะไรก็ได้ นอนได้ทั้งนั้น ซึ่ง ถ้าพี่โชคดี เน้นนะครับ ถ้าพี่โชคดี .... มันก็คงไม่เป็นอะไร นอนได้ แต่ดีหรือไม่นั้นว่ากันอีกทีนะครับ แต่ปัญหาคือ พี่จะเป็นพี่ที่โชคดีคนนั้นมั้ย นั้นคือปัญหาครับ .... พี่พี่หลายท่านอ่านอาจจะบอกผมว่า เฮ้ยน้อง น้องขายที่นอน น้องเองก็ว่าไปนั้น ซึ่งถ้าพี่พูดแบบนี้ผมเองก็คงบอกพี่ได้คำเดี๋ยวว่า ก็คงสุดแล้วแต่ใจพี่เลยครับ ... แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้แน่ ๆ เกี่ยวกับ เฟอร์นิเจอร์ ที่ชื่อว่าที่นอนนั้นคือ .... พี่ครับ ใน 1 วัน พี่นอนหรือใช้ชีวิตอยู่บนที่นอนนั้นมากกว่าที่อื่น ๆ ในบ้าน และพี่ต้องอยู่กับมันนานมากครับ วันละ 7-8 ชั่วโมงขั้นต่ำ ซึ่งอาจจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ เพียงอย่างเดียว ที่พี่ใช้เวลาร่วมกับมันและทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับมันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ และแน่นอนครับ ที่ผมบอกว่า เฟอร์นิเจอร์ ตัวที่ชื่อว่าที่นอนนั้น ส่งผลต่อ สุขภาพจิต และสุขภาพของพี่ นั้นมันเป็นเรื่องจริง และมันเป็นอย่างนี้ครับ แน่นอนว่า สิ่งที่พี่จะทราบเลยและทราบอยู่หรืออาจจะเคยเจอกับกับตัวเองหรือเคยได้ยินมา คือ อาการปวดหลัง หรือ อาการเหน็บชาตรงตามข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งอาการตรงนี้แน่นอนว่าอาจจะเกิดจากได้สาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การใช้กำลังแรงกายที่เยอะ แต่พี่เชื่อมั้ยครับ สาเหตหลัก ๆ นั้นก็มีที่มาจากที่นอนด้วยนะครับ ถ้าในกรณีพี่เลือกผิด หรือเลือกที่นอนไม่โดนหรือตรงตามสเป็คของร่างกายครับ ซึ่งมีพี่พี่หลาย ท่านที่ต้องการหาสาเหตุ ถึงขนาดต้องไปหาหมอ ในหลายเคส อาจจะต้องจ่ายเงินหาหมอ ในการจัดทรงร่างกาย หรือพี่บางท่านอาจจะไปไกลถึง ไปหาหมอ Orthopedic ที่เน้นเรื่องกระดูกโดยตรง เลยก็มีครับ( ตรงนี้ก็มีบ่อยนะครับ ) ซึ่งปัญหาตรงนี้ถ้าแก้แล้ว เอาแบบสุด ๆ จริง ๆ พี่พี่หลายท่านที่เคยไปหาหมอทางด้านนี้ จะทราบเลยว่า คุณหมอก็จะ แนะนำให้เปลี่ยนที่นอน หรือ จัดหาที่นอนมาใหม่ ให้รองรับหลังหรือร่างกายได้ดีกว่าเดิมครับ ( ผมเองเจอลูกค้าเคสแบบนี้บ่อยมากกว่า อันนี้จากประสบการณ์ตรงนะครับ บอกพี่ตามตรงว่าเป็นเคสที่ยากมากครับ ผมเองต้องลงไปขายเองบ่อยและทุกเคสเลยก็ว่าได้ครับ ยิ่งเคสที่พี่มีปัญหาเรื่องหมอนรองกระดูกตรงนี้ผมเองก็เจอบ่อยครับ แต่พี่ครับ ที่นอนไม่ใช่สินค้าที่มีมนต์ตราวิเศษที่ซื้อมานานและจะหายเลยนะครับกับเรื่องพวกนี้ แต่ที่นอนเป็นอุปกรณ์ที่จะเป็นตัวช่วยเรื่องพวกนี้จากสิ่งที่พี่เป็น ถ้าในกรณีพี่เลือกได้ถูกต้องตามการใช้งานก็จะช่วยให้อาการที่เป็นหนัก ผ่อนเป็นเบา หรือ ไม่มีอาการเลย ) จากจุดตรงนี้ที่พี่เจอ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพจิตของพี่โดยตรงเลยครับ คิดง่าย ๆ ครับ เกิดเป็นอาการแบบนี้ นอนแล้ว ตื่นมาเมื่อย ๆ หรือ ตื่นบ่อย ๆ เวลานอน สิ่งที่ตามมาคือพี่นอนไม่พอ หงุดหงิด ซึ่งอาการแบบนี้ไม่ต้องไปเหลาอะไรมาก ผมเชื่อว่าพี่พี่หลาย ๆ ท่านน่าจะทราบดีถึงอาการที่นอนไม่พอ หรือ นอนไม่พอสะสม หรือ นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอชอบง่วงนอนได้ทั้งวัน อะไรแบบนี้ครับ ซึ่งก็อย่างที่ผมบอกนะครับ มันจะเป็นบ่วงโซ่กันไปหมดครับ .... แต่ถ้าพี่ใช้เวลากับมันซักนิดนึง ให้ความสำคัญซักนิดนึง เรื่องแบบนี้ก็จะไม่มากวนใจ แต่ในทางกลับกัน....พี่ครับ การเลือกที่นอนดี และเหมาะสมกับร่างกาย ก็จะส่งผลในทางกลับกันเลยนะครับ แน่นอนว่าไม่ต้องขออะไรมาก แต่เลือกแค่ให้อยู่แค่ในจุดที่ นอนลงไปแล้วไม่ปวดหลัง และนุ่มนอนสบาย...ให้หลับเต็ม ๆ 7-8 ชั่วโมงก็พอ ไม่ต้องถึง 10-11 ชม ไม่ตื่นหรือรู้ตัวระหว่างการนอน แค่เพียงเท่านี้

 ผมเชื่อว่า ชีวิตพี่ก็ ดี๊ดี ขึ้นเยอะเลยครับ !!!! 

 
 
...........................................................................................................................
 
 
 

 เราคุยกันมาพอหอมปากหอมคอกันแล้วนะครับ  เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า 

หลักในการเลือกซื้อที่นอน

 
 
 
 
 
 
 
 

" ที่นอนที่แพงที่สุด.....ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นที่นอนที่ดีที่สุดครับ"
” ที่นอนที่ดีกับคน 1 คน......ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีกับพี่ทุกคนนะครับ ”

ซึ่งตรงนี้ผมว่าน่าจะเป็นคำจำกัดความที่ถือว่าครอบคลุมที่สุดครับ .... เพราะ ที่นอนนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมากครับ

ไม่ว่าจะเป็นตัวที่นอนเอง ที่แบ่งเป็น ยี่ห้อ วัสดุที่ใช้ หรือเทคโนโลยีในยี่ห้อนั้น ๆ เป็นต้น หรือ ตัวผู้นอนเอง ที่มีน้ำหนักมาก น้ำหนักน้อย และรสนิยมขอบผู้นอนว่าชอบที่นอนแบบไหน ออกแนวนุ่มนวล จมตัว หรือไปจนกระทั้งแข็งกระด้าง ซึ่งตรงนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่ยากพอตัวครับ กว่าจะจับหามาแม็ชชิ่งกันได้ ซึ่งตรงนี้ถ้าให้แนะนำวิธีที่ถือว่า ลูกทุ่ง ง่าย และใช้งานดีที่สุดคือ


1 .เวลาพี่เทสที่นอนนะครับ พี่ต้องนอน ห้ามเอาความรู้สึกเวลานั่ง มาเป็นเกณฑ์ตัดสินครับ เพราะ เวลาพี่นั่งที่นอนจะยุบกว่าปกติเพราะ เป็นน้ำหนักตั้งแต่ ศีรษะ ของราลงมาถึงสะโพกนะครับ แต่เวลาพี่นอนลงไปแล้วนั้นจะเป็นในส่วนของช่วงความหนาของตัวเราเวลานอนลงไปจริง ๆ ครับ ถ้าพี่เทสดีดีหรือจับความรู้สึกดีดี พี่จะทราบในทันทีเลยครับว่า เวลาที่พี่นั่ง ที่นอนยุบมากกว่าเวลาพี่นอนครับ ในที่นอนรุ่นนั้น ๆ ครับ


2 .เวลาพี่นอนเทส ถ้าให้แนะนำจริง ๆ พี่ต้องลองนอนทั้ง นอนหงาย และนอนตะแคงด้วยนะครับ เพื่อให้ทราบถึงฟิวการนอน เพราะผมเชื่อว่าเวลาที่พี่นอน คงไม่นอนท่าเดียวทั้งคืนแน่นอนครับ และพยายามจับฟิวการนอนนะครับ ว่านอนท่านี้แล้ว ok มั้ย นุ่มไปหรือแข็งไปรึป่าว แล้วพยายามจับความรู้สึกในส่วนของจุดที่มีแรงกดทับด้วยนะครับ ว่า มีอาการอะไรมั้ยครับ ถ้ามีหรือนอนลงไปแล้วไม่สบายตัว ตรงนี้แนะนำหารุ่นอื่นลองเทสคบคู่กันไปด้วยครับ แต่ถ้าแนะนำจริง ๆ ผมเองอยากแนะนำให้พี่ลองดูรุ่นที่ถือว่าเป็นเบสพื้นฐานของตัวที่นอนดูก่อนนะครับ และค่อยขยายไปลองนอนตัวอื่นดูครับผม เพื่อความรวดเร็วและความชัวร์เปรียบเทียบครับ


3 .เวลาเลือกซื้อที่นอนที่แม็ชกับตัวเราจริง ๆ นั้น ต้องถามตัวเราเองก่อนนะครับว่าชอบแบบไหน โดยอิงให้อยู่ในพื้นฐานของที่นอนเดิมนะครับ ในปกติ คนเราจะสามารถนอนที่นอนเดิมที่นอนแล้วไม่มีปัญหาได้ นุ่มกว่า หรือ แน่นกว่า 2-3 เบอร์เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถนอนแบบเปลี่ยนแบบสุดขั้วได้เลยนะครับ อย่างเช่น พี่นอนที่นอนแบบแข็งมากมากก่อน และอยู่ดีดีจะซื้อที่นอนก็ซื้อไปแบบนุ่มมาก ๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ความนุ่มจะมากไปนะครับ เวลาพี่นอน หลังพี่จะเป็นดังในรูปที่นอน 1 ครับ คือ too soft ครับ ดูดีดีหลังพี่จะแอ่นครับ ซึ่งแน่นอนว่าพอนอนลงไปแล้ว หลังแอ่น หรือนอนลงไปแล้วที่นอนเป็น ที่นอนหลุ่มหรือยวบเกินไป แน่นอนครับ เวลาพี่นอนก็จะเกิดอาการเกร็ง พอเกร็งนาน ๆ สิ่งที่ตามมาก็คือ เมื่อย ตรงจุดที่เราต้องเกร็งครับ แน่นอนว่า พี่บางท่านไหร่ไหญ่แบบกล้ามปูเลย ก็จะเมื่อย ตรงช่วงคือและบ่าครับ แต่ถ้าพี่ท่านไหน มีพุงหรือเจ้าเนื้อนิดนึงก็แน่นอนครับ ที่นอนที่นุ่มจะไวมากต่อแรงกดทับ ช่วงพุงหรือหลังงอ ตรงนี้ก็เสร็จเช่นกันครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเจอบ่อยครับในการอาการปวดหลังครับ หรือพี่บางท่าน นอนที่นอนนุ่มมาก่อนและอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นที่นอนแข็ง ๆ เลยตรงนี้ก็เจอปัญหาเช่นกันครับ แต่จะเจอกันคนละจุด ซึ่งปัญหาตรงนี้คือ จะเจ็บตามข้อต่อ ต่าง ๆ ของร่างการที่มีแรงกดทับลงไปครับ ไม่ว่าจะเป็น ช่างหัวไหล่ ข้อศอก เข่า สะโพก พูดง่าย ๆ คือ ตามจุดข้อต่อนะครับ หรือพี่บางท่านปวดไม่พอ เป็นอาการเหน็บชาเลยก็มีเยอะครับ ซึ่งดูได้จากภาพที่ 2 ครับ too firm ดูง่าย ๆ ที่นอนไม่เรียดตามหลังเลยนะครับ ทำให้เกิดช่องว่าง ที่นอนกระจายน้ำหนักไปไม่ทั่วตัวผู้นอนนะครับ เลยทำให้การรับภาระอยู่ที่ร่างกายในจุดนั้น ๆ ที่สัมพัสตัวที่นอนเลยทำให้เกิดแรงกดทับตามข้อต่อที่สูงเลยมันเลยมีปัญหาครับผม แต่ถ้าพี่ดูดีดี ตัวสุดท้ายครับ Correst Orthopedic Position จุดนี้ครับซึ่งถือว่าเป็นจุดลงตัวที่สุดในการนอนครับ เพราะที่นอนจะเรียงตามตัว....เข้าตามรูป หลังของเราได้เป็นอย่างดี และรูปแบบการนอนก็จะอยู่ในรูประนาบแนวตรงครับ หลังไม่แอ่น หรือไม่งอจนเกินไปครับ และแน่นอนว่าพอที่นอนสามารถโค้งมารับในช่วงของหลังที่แอ่นมาก ๆ ของตัวผู้นอนได้แล้วนั้น เวลาพี่นอนตะแคง ที่นอนก็สามารถกระชับหัวไหร่ได้ดีลดแรงกดทับตามข้อต่อต่าง ๆ ได้ดีเช่นกันด้วยครับผม



สรุป อย่างย่อให้นะครับ


too soft    

เวลาพี่นอนลงไปที่นอนจะนุ่มเกินไปหรือไม่นั้น...พี่ลองนอนและพี่ลองให้เพื่อน ถ่ายรูป หรือให้ใครดูก็ได้ครับ ว่าเวลาพี่นอนลงไปในที่นอนนั้นแล้ว หังพี่โคล้งมากหรือโคล้งน้อยแค่ไหน ตรงนี้สามารถดูได้ด้วยสายตาหรือจากการถ่ายได้เลยครับ ถ้าดูแล้วมันแอ่นมากไปพี่ก็ลองดูเทียบกับตัวที่นอนที่แน่นขึ้นนะครับ


too firm  

  ตรงนี้ให้พี่นอนหงายครับ และพี่นอนลงไปแล้วนั้น พี่ลองเอามือสอดตรงหลังดูครับ ในช่วงระหว่างใต้นมลงถึงสะโพกดูนะครับ ว่าที่นอนเรียดเต็มหลังดีรึป่าวครับ เพราะในช่วงใต้ราวนมลงมาถึงสะโพกนั้นเป็นช่วงที่หลังเราเอามากที่สุดครับ ถ้านอนลงไปแล้ว สอดมือไปไม่ได้และเต็มพอดี อันนี้คือ ok ผ่านนะครับ แต่ถ้าสอดลงไปแล้ว มือหลวมโครกเลย หรือสอดลงไปแล้วสามารถรอดได้ทั้งมือเลยตรงนี้แนะนำให้หาที่นอนที่นุ่มขึ้นลองเทสเปรียบเทียบดูนะครับผม น่าจะดีขึ้นครับ


Correst Orthopedic Position

 ถ้าอธิบายทั้ง 2 อันข้างบนแล้ว ตรงนี้ผมเองคงไม่ต้องพูดมากนะครับ ตามแบบรูปเลยครับ


ที่รูปแบบการนอนไม่ว่าจะนอนหงายหรือนอนตะแคง รูปแบบการนอนจะอยู่ในระนาบแนวตรงครับ และเวลานอนหงายที่นอนจะเรียดเต็มหลังครับ มือไม่สามารถสอดผ่านได้ ที่นอนจะเต็มหลังพอดีครับผม และเป็นรูปทรงที่มีคามเสี่ยงต่อการนอนและมีปัญหาทั้งปวดหลังและปวดไหล่มากที่สุดครับผม


 อันนี้เป็นขั้นตอนเบื้องต้นนะครับในการเลือกซื้อที่นอนให้ได้ดังใจ คือ ซื้อมาแล้วใช้ได้ไม่ต้องเสียเงินซ้ำ 2 ครับแต่ตรงนี้เป็นเพียงวิธีการเบื้องต้นนะครับ ซึ่งถ้าเน้นแบบละเอียดจริง ๆ อาจจะต้องดูน้ำหนักและส่วนสูงมาประกอบด้วยครับ ถึงจะ ok ที่สุดครับ และรวมไปถึงรสนิยมของผู้นอนด้วยครับ ว่าชอบนอนแบบไหน นุ่ม แน่น หรือ นุ่มแน่น แต่ถ้าพี่ทำได้ดั่งที่ผมบอกนี้แล้วผมเชื่อว่า น่าจะเป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อที่นอนได้ถึง 70-80% แล้วครับ ส่วนเรื่องฟิว หรือจะเลือกยี่ห้อไหนนั้น ตรงนี้ต้องมาเจาะลึกอีกทีนะครับ เพราะในแต่ละยี่ห้อจะมีข้อดีและเด่นต่างกันออกไปครับ


4 ข้อนี้เป็นข้อที่ผมเถียงตัวเองมากที่สุดนะครับ....ซึ่งถ้าพี่อ่านอาจจะ งง ว่าทำมั้ยเรื่องเงินถึงดันมาอยู่ข้อ 4 แทนที่จะเป็นข้อที่ 1 ซึ่งแน่นอนครับผมเองพึ่งคิดและไตร่ตรองตามความจริง มันเลยเป็นอะไรที่หนีไม่พ้นครับ ซึ่งแน่นอนว่า งบประมาณนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ เวลาเราจะซื้ออะไร ควรจะมีตั้งงบประมาณไว้ในใจบ้างนะครับ ผมว่าน่าจะดีกว่า อาจจะไม่ได้ ตรงเป๊ะ ตามที่เราตั้งไว้ แต่ก็คือควรมีการประเมิณหรือประมาณการไว้ก่อนน่าจะดีกว่าครับ เพื่อให้พี่สามารถกำหนดเร้นของตัวที่นอนและสเป็คขอตัวที่นอนได้อย่างเบื้องต้น และจะง่ายกว่าที่พี่ไปเดินดูแบบสุ่ม ๆ ครับผม .... และในการตั้งงบประมาณถ้าในความคิดผม ผมเองแนะนำให้พี่ตั้งงบประมาณแบบเพื่อเหลื่อเพื่อขาดได้ด้วยนะครับ อย่างเช่น อาจจะดูไว้หรือตั้งไว้ 10,000 แต่ก็อยากให้
เพื่อไว้ซักอีก 3,000-5,000 ด้วยนะครับ เพื่อสามารถเล่นในตัวรุ่นที่ดีกว่าได้อะไรแบบนี้ครับ หรือถ้าพี่ถูกในรุ่นที่ราคาต่ำกว่าอันนี้พี่ก็โชคดีไปครับ ซึ่งตรงนี้ถ้าให้แน่ ๆ เลยพี่ต้องมาลองเทสและลองดูด้วยตัวเองนะครับผม ถึงจะ ok ครับผม


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 

 

รายละเอียดปลีกย่อย ที่พี่ควรจะรู้นะครับผม 

รายระเอียดปลีกย่อย ก่อนนะครับ อีกนิดนึง....ก่อนที่ผมจะอธิบาย ลงลึกถึง ในเทคโนโลยี่ต่าง ๆ ของยี่ห้ออื่น ๆ ตรงนี้ ผมเองขอพูดถึง 2-3 เรื่องครับ ที่เป็นปัญหาส่วนใหญ่ ที่พี่พี่สงสัยกัน คือ

 

1. เรื่องขนาดที่นอน

* ขนาดที่นอนตรงนี้เป็นอะไรที่พี่หลาย ๆ ท่านสงสัย และถามผมมาเยอะมาก ว่าขนาดที่นอนจริง ๆ แล้วมีกี่ขนาดและแต่ละขนาดนั้น...มันจะหาผ้าปูที่ใช้ยากมั้ย และแพงมั้ย ซึ่งโดยพื้นฐานที่นอนในบ้านเรานั้นแบ่งเป็น

1 King Size จะมีขนาด กว้าง 6 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต หรือ กว้าง 183 ซม X ยาว 198 ซม

2 Queen Size จะมีขนาด กว้าง 5 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต หรือ กว้าง 153 ซม X ยาว 198 ซม

3 Twin Size จะมีขนาด กว้าง 3.5 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต หรือ กว้าง 108 ซม X ยาว 198 ซม

ซึ่ง ขนาด 3 ขนาดข้างบนตรงนี้เป็นขนาดที่นอน ที่บ้านเรานิยมใช้กันนะครับ แต่บางทีก็จะมีขนาดอื่นเพื่มเติมมาอีกครับ ยกตัวอย่างเช่นถ้าพี่ไปดูที่ อีเกีย หรือร้านที่เป็นร้านเตียงนำเข้า อย่างร้าน ชนิดกรุ๊ป อีทาน หรือ ร้านเตียงต่าง ๆ ที่อยู่ตามห้างไฮโซ อย่าง CDC และอื่น ๆ นะครับ ซึ่ง พี่จะเจอขนาดตามนี้ครับ

1 Americar King จะมีขนาด กว้าง 6 .5 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต หรือ กว้าง 198 ซม X ยาว 198 ซม

2 California King จะมีขนาด กว้าง 7 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต หรือ กว้าง 198 ซม X ยาว 198 ซม

แต่บางที่ก็จะเป็น California King ที่เป็น กว้าง 7 ฟุต X ยาว 7 ฟุต ซึ่งพี่พี่หลาย ๆ ท่านก็อย่าไปกังวลนะครับ เพราะ ที่นอนสมัยนี้ก็สามารถสั่งทำสั่งตัดได้อยู่แล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก ๆ หรือ ขนาดใหญ่ ๆ ซึ่งมีทำมารองรับอยู่แล้วครับผม โดยราคาก็ไม่ได้ แพงแบบโอเวอร์เหมือนเมื่อก่อนและครับผม โดยราคาก็อิงตามขนาดมาตรฐานครับผม ไม่ต้องห่วงนะครับ ส่วนเรื่องผ้าปูเดี๋ยวนี้ก็มีมารองรับอยู่แล้วครับ ทุก Size ทุกขนาดครับผม

 

2 เรื่องการรับประกัน

ตรงนี้เป็นอะไรที่พี่พี่หลาย ๆ ท่านเข้าใจผิดกันนะครับ คือ ในการรับประกัน ถ้าพี่พี่ได้ฟังจากปากเซลคนขาย เซลทุกคนก็จะบอกว่าถ้ามีปัญหา ยุบ หรือยวบ ก็มีการเปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที แต่เอาเข้าจริงแล้ว ที่นอนเวลาเสีย ทุกยี่ห้อเค้าจะไม่เปลี่ยนนะครับ แต่เค้าจะต้องทำเครมให้พี่พี่ก่อนครับ ในกรณี เปิดที่นอนมาดูแล้ว ที่นอนมีการยุบจากของชั้นข้างใน เกินกว่า 70-80% เค้าถึงจะเปลี่ยนใหม่ให้นะครับ โดยเป็นที่นอนรุ่นเดิม แต่เป็นตัวใหม่ครับ แต่ถ้าสามารถอยู่ในเกณฑ์ที่ซ่อมได้ อย่างเช่น เปิดออกมาสปริงยุบ แต่ตัวชั้นผิวหน้าไม่ยุบ หรือ สปริงไม่ยุบ แต่ผิวหน้าชั้นที่เสริมยุบ ...ทางโรงงานก็จะเปลี่ยนในส่วนของวัสดุที่เสียนั้นให้ใหม่ครับ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เน้นนะครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือจะเป็นในเคสที่ .... เสียหายเกิน 70-80%ของตัวที่นอน ซึ่งทางโรงงานเปลี่ยนที่นอนตัวใหม่แต่เป็นรุ่นเดิมให้ ตรงนี้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็น Sealy slumberland Omazz lotus และ Dunlopill ก็เป็นแบบนี้เช่นกันครับผม

 


3 เรื่องของการกลับที่นอน หรือพลิกที่นอนครับ

เรื่องนี้เป็นอีก 1 เรื่องที่พี่พี่จะเข้าใจผิดเสมอครับ ว่าที่นอนนั้นถ้าใช้ให้มีความคงทนต้องพลิกที่นอน...หรือที่นอนยุบแล้วต้องกลับมานอนอีก 1 ด้านถึงจะเครมได้ ซึ่งก็อย่างที่ผมบอกนนะครับ พี่พี่เข้าใจผิดครับ ซึ่งความจริงเป็นตามนี้นะครับ พี่ซื้อที่นอนมา 1 หลัง....การรับประกันก็จะตามติดกับที่นอนมาเลยนะครับ และในใบรับประกันก็ไม่มีบอกนะครับ....ว่าต้องนอนให้ยุบทั้ง 2 ด้านก่อน ถึงจะเครมได้ ซึ่งตรงนี้ต้องบอกพี่เลยครับ ถ้าที่นอน 1 หลัง ผมขอแบ่งเป็นหน้า A และ หน้า B นะครับ แทนด้านหน้าและด้านหลังครับ ซึ่งถ้าในกรณีพี่นอนลงไปแล้ว ด้าน A มันยุบ...และพี่พลิกที่นอนกลับ นอนหน้า B ที่นอนก็ยุบอยู่ดีครับ ในจุดเดิมที่ยุบครับ ซึ่งผมเองจะบอกพี่พี่อยู่เสมอ ๆ ว่า พี่ไม่ต้องกลับครับ ถ้าพี่นอนลงไปแล้วที่นอนยุบ พี่แจ้งเครมได้เลยครับ ซึ่งตรงนี้ ทางโรงงานเค้ารับประกันเปลี่ยน ซ่อม เครม ให้พี่อย่างเต็มพี่อยู่แล้วครับผม ไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่ต้องกลับที่นอน หรือทนนอนนะครับ พี่พี่ สามารถแจ้งได้เลย ที่ไหนก็ได้นะครับ ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในยี่ห้อนั้น ๆ เลยนะครับ อย่างเช่น พี่ซื้อห้าง พี่ก็สามารถแจ้งเครมทางร้านค้าเลยก็ได้ครับ หรือพี่ซื้อร้านค้า พี่ก็สามารถแจ้งเครมห้างได้เลย หรือพี่จะแจ้งเครมทางโรงงานเองเลยก็ได้ครับ เพราะสินค้าพวกนี้เป็นสินค้าที่เป็นตัว ยูนิเวอร์แซล ซึ่งพี่สามารถแจ้งเครมได้ตามสะดวกพี่เลยครับผม

หรือ พี่สามารถแจ้งเครมผ่านทางผมได้เลยครับ ผมเองเปิดกระทู้นี้มา เพื่อให้ความรู้ ตอบปัญหา และขอเป็นอีก 1 ช่องทางนะครับ ที่พี่พี่สามารถฝากทางผมแจ้งเครมเรื่องที่นอนได้เลยครับ ว่ายุบ หรือยวม เดี๋ยวผมดูแลให้ครับผม เรื่องเล็กครับ

มาทำความเข้าใจก่อนนะครับ พี่พี่บางคนอาจจะไม่ทราบว่าที่นอนยุบเป็นแบบไหน ยวบเป็นแบบไหน ซึ่งตรงนี้ผมเองจะอธิบายให้ฟังนะครับ

* ที่นอน ยุบ คือ ที่นอนที่เวลาพี่มองที่นอนที่วางอยู่บนเตียงแล้วที่นอนจะเป็นแอ่งลงไปแล้วครับ ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะเกิดช่วงไหนของเตียง พี่ก็สามารถเครมได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านข้าง ของเตียง หรือตรงกลางเตียง

* ที่นอนยวบ คือ ที่นอนที่เวลาพี่มองลงไปแล้วผิวหน้าที่นอนเป็นปกติครับ...แต่เวลาพี่นั่งหรือนอนลงไปแล้วนั้น ที่นอนจะยุบ และปุ๋ม หรือ นุ่ม เป็นแอ่งลงไปกว่าส่วนอื่น ๆ ของตัวที่นอน ซึ่งอาการแบบนี้ จะเป็นอาการเริ่มแรกก่อนที่นอนจะยุบนะครับ

ซึ่งตรงนี้ถ้าพี่พี่ท่านไหน....ไม่มั้นใจว่าที่นอนตัวเองเป็นแบบนี้หรือไม่ ก็สามารถแจ้งเครมทางใดก็ได้นะครับ....เพื่อให้ทางโรงงานมาตรวจสอบได้เลยนะครับผม
 

 

 ........................................................................................................................................

 
 

มาครับ ต่อนะครับ .... ตรงนี้ผมเองขอใช้ชื่อหัวข้อว่า จำแนกแจกแจงนะครับ ที่ใช้ชื่อนี้เพราะ ผมเชื่อว่าพี่พี่หลาย ๆ ท่านน่าจะสงสัยในเรื่องสเป็กที่นอนและรุ่นที่นอนรวมถึงข้อดีและข้อเด่นนะครับในแต่ละยี่ห้อ ว่ายี่ห้อไหนดี แล้วยี่ห้อนี้ยี่ห้อนั้น มันดีอย่างไร ทำมั้ยถึงต้องซื้อยี่ห้อนี้ยี่ห้อนั้น ซึ่งถ้าพี่พี่ได้อ่านก็น่าจะทราบครับ และน่าจะเลือกที่นอนไม่ยากครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ผมเองอธิบายด้วยความคิดส่วนตัวที่มาจากประสบการณ์นานมากว่า 10 ปีนะครับ และผมนำมากลั่นกลองให้พี่พี่ได้อ่านกันนะครับ

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เรียนพี่ตามตรงนะครับ สเป็คผมเองบอกพี่เต็ม 100% แต่ถ้าจะให้ชัว พี่พี่ต้องไปลองนั่งลองนอนดูเองอีก 1 ทีนะครับ ก่อนตัดสินใจ แต่ขอให้ตรงนี้เปรียบเสมือน ความรู้เบื่องต้นไว้ให้พี่พี่อ่านและทราบเพื่อกัน ไม่ให้เซลที่ชอบมั่ว หรือ โมเมสเป็คมาโม้แก่พี่นะครับ อย่างน้อย ๆ ความรู้ตรงนี้ก็สามารถเป็นความรู้ที่เบื่องต้นให้พี่พี่ทราบพอมีอาวุธเพื่อป้องกันตัวไม่ให้เจอหลอกนะครับ

 เริ่มเลยนะครับ

 
 
 
........................................................
 
 

จำแนกแจกแจง

 

1 Sealy

 
 
 
 
 
 


Sealy ยี่ห้อนี้ถือว่าเป็นยี่ห้อที่มีความเก่าแก่มากครับ และที่นอนที่ทำออกมาถือว่าเป็นที่นอนที่มีความ ประณีต และละเอียดมากครับ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของฝีเข็มในการเย็บและความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานครับ เรื่องการใช้งานแล้วนั้นเหตุที่ใช้ไปแล้วนอนลงไปแล้วที่นอนมีการปริแตกนั้นไม่มีครับ และจุดขายของ sealy อีก 1 อย่างคือ ระบบสปริงที่เป็นเอกสิทธิ์ที่มีการพัฒนากันมาอย่างยาวนานคือ ระบบสปริง POSTURETECH (โพสเจอร์พีดิก เป็นชื่อระบบสปริงนะครับ ซึ่งที่นอนทุกตัวจะมีติดไว้ครับ เพราะฉะนั้นเวลาพี่พี่ดูรุ่นเพื่อมาเปรียบเทียบรุ่นหรือราคา คำนี้พี่ข้ามไปเลยนะครับ ไม่ต้องไปสนใจมั้ยครับผม ) ซึ่งเป็นระบบสปริงที่ถือว่า เป็นสปริงที่มีการให้ตัวที่ดีมากครับ แน่นอนว่าถ้ามีเรื่องการให้ตัวมากแล้วนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือความเด้ง ครับ ซึ่งเป็นสปริงรุ่นเดิมที่เป็นสปริงเหล็กครับ แต่ตอนหลัง ๆ sealy นั้นได้พัฒนาเกลียวกับสปริงและตัวสปิงให้เป็นแบบ ไทเทเนี่ยม ครับและมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนักได้มากกว่าเดิมครับ และได้มีการพัฒนาสปริงมีหลาย Collection ให้ตรงตามความต้องการของพี่พี่ได้เลือกด้วยครับ โดยแบ่งตามนี้ครับ

 

Collection สปริง Posture Tech


 


สปริงรุ่นนี้เป็นสปริงที่เป็นตัวสร้างชื่อของทาง sealy ครับ และเป็นสปริงที่เรียกได้ว่าเป็นตัวเบสพื้นฐานที่ทาง sealyเค้าใช้ในการพัฒนาไปเป็นสปริงรุ่นต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าสปริงตัวนี้มีความไม่ธรรมดาซ่อนอยู่แน่นอนครับ ซึ่งสปริงตัวนี้จะเป็นแบบสปริงที่เค้าเลียกว่าสปริงหัวเหลี่ยมปลายเปิดครับ ซึ่งการนั่งหรือการนอนนั้นจะให้ฟิวการนอนที่ออกเด่งนิด ๆ เหมือนฟิวโรงแรมครับ และสปริงตัวนี้จะให้ขดลวดที่มีความหนาถึง 2.4 มิลครับ และเน้นเกลียวสปริงที่มีความสูงเพื่อสร้างแรงสปริงตัวของลูกสปริง....เพื่อให้เกิดแรงต้านและตอบสนองต่อแรงกดที่ต่างกันของร่างกายครับ ซึ่งสปริงตัวนี้ที่เด่นเลยคือระบบสปริงที่หัวสปริงเป็นปลายเปิดครับ ซึ่งทำให้มีอิสระในการเอนรับหลังซึ่งตัวสปริงจะเอนและเอียงไปตามแรงกดที่มีน้ำหนักเยอะ ช่วยในการพยุงหลังได้ดีมากครับ พี่ดูภาพประกอบนะครับ ซึ่งในรูปแรก พี่ลองดูครับ สปริงที่เป็นตัวสีแดงจะรับน้ำหนักในแนวตรง แต่ในส่วนของช่วงที่เป็นแนวโค้งของหลัง สปริงตัวด้านข้างในส่วนขอบตรงหัวสปริงก็จะเอนรับและช่วยในการดันหลังด้วยนะครับ ซึ่งตรงนี้เค้าเลียกว่า ระบบ Sense and Respond ครับ ซึ่งถ้าเป็นยี่ห้ออื่นเวลานอนลงไปแล้วนั้นที่นอนจะจมตัวเป็นแอ่งและการยืดหยุ่น


และการโค้งของตัวผิวหน้าตัวที่นอนจะไม่มีครับ ซึ่งถ้าเทียบกับตัว sealy นั้น sealy จะมีความยืดหยุ่นมากกว่ากัน ถึง30-50% เลยครับ

ซึ่งในรุ่นที่เด่นเลยนะครับในสปริงรุ่นนี้ ผมเองอยากให้พี่ดูเป็นตัว

 

sealy รุ่น prima

 
 
 
 
 

ตัวนี้เป็นที่นอนที่เป็นสปริงที่อยู่ใน Collection สปริง Posture Tech และตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่เป็นตัวมาตรฐาน มีการแข่งขันราคากันเยอะมากนะครับ ซึ่งทำให้ราคาตัวนี้ไม่แรงมากและอยู่ในเร้นราคาที่พี่พี่รับได้ครับ(หมื่นปลายถึง 2 ต้น ๆ ครับ) และโดยฟิวการนอนนั้นแน่นอนว่าตัวสปริงจะออกแนวเด่งนิด ๆ แต่ตัวนี้จะเน้นผิวหน้าที่เป็นตัวโฟมยางที่เน้นเรื่องการรับหลัง ซึ่งเวลาพี่นอนลงไปนั้นที่นอนจะห่อตัวนิดหน่อยครับ แต่ฟิวที่พี่จะสามารถรู้ได้เลยคือการดันหลังที่ถือว่าเต็มมาก ซึ่งถ้าพี่เทียบกับตัวรุ่นที่สูงกว่านี้ ผมว่าก็ไม่น่าจะต่างอะไรกันมากเท่าไหร่และครับ หมายถึงในเร้นราคาที่ 2 หมื่นกลางถึง 2 ปลาย ๆ ครับ และดีมากครับ ตัวนี้ในเร้นราคาที่ไม่แรงมาก แต่ให้ของแถมมาตรงชุดเลยครับ 11 ชิ้น ซึ่งผมว่า ถ้าพี่พี่ชอบนอนที่นอนแบบฟิวโรงแรม ที่ไม่นุ่มมาก อยากให้พี่พี่ลองดูตัวนี้เป็นเบสพื้นฐานก่อนเลยนะครับผม

 

........................................................

 

Collection สปริง Posture Tech แต่เป็น Unicased

 
 

 
 


พี่พี่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า เฮ้ยน้อย มันต่างกับตัวสปริงข้างบนตรงไหน....ผมเองก็คงตอบพี่ไปแล้ว ซื่อ ๆ เลยครับ ตรงคำว่า Unicased ครับ ซึ่ง คำว่า Unicased ไม่ใช่เพิ่มมาแต่ชื่อและราคาเพิ่มอย่างเดียวนะครับ แต่สเป็คที่นอนนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยครับ ซึ่งคำว่า Unicased นั้นหมายถึงที่นอนที่นอนด้านเดียวครับ ไม่ต้องกลับด้านนอนครับ โดย Unicased นั้นเป็นการทำเฟรมมาครอบตัวสปริงอีกทีนึงครับ เพื่อให้ที่นอนมีความนิ่ง...และลดแรงบิดของตัวสปริงไม่ให้แกล่งครับ ทำให้ระบบ ระบบ Sense and Respond ทำงานได้ดีขึ้นครับ เพราะในการเอนรับหลังนั้นจะมีความนิ่งและเสถียรสปริงไม่มีปลิ้นหรือเอนผิดจังหวะ ครับ ทำให้ความแม่นยำต่อแรงกดที่ร่างกายส่งไปในตัวที่นอนมีมากขึ้นครับ และยังช่วยให้ ระบบ Sense and Respond ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกด้วยครับ

ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ

 


Sealy รุ่น THE Royal

 
 
 

 


ตัวนี้จริง ๆ แล้วมีมามานานมากและครับ และถือว่าเนตัวที่ พี่พี่ส่วนใหญ่ให้ความนิยมเพราะราคาไม่แรงมากซึ่งถ้าเทียบกับตัว รุ่น top ด้วยกัน ตัวนี้ถือว่าแทบไม่มีอะไรต่างเลยครับแต่ที่ต่างอย่างเดียวคือ ราคาครับ ซึ่งตัว THE Royal ตัวนี้ชื่อจริง ๆ ของเค้าเลยคือตัว เดอะรอเยอร์ โทฟี่ ครับ ซึ่งถ้าพี่พี่ท่านไหนเล่นกอล์ฟ ก็น่าจะคุ้นเคยชื่อนี้อยู่บ้างครับ ซึ่งตัวนี้ก็เป็นอย่างที่พี่พี่หลาย ๆ ท่านเข้าใจเลยครับ ตัวนี้เป็นตัวที่นอนที่เมื่อก่อนจะทำออกมาเฉพาะในช่วงที่มีการแข่งขั้นกอล์ฟรายการ เดอะรอเยอร์ โทฟี่ เท่านั้นครับ และตัวนี้เป็นรุ่นที่ทาง sealy usa เป็นคนที่ฟิกสเป็คมาเลยครับ และแน่นอนว่าจัดเต็มมากครับ เนื่องจากเป็นตัวที่ทำออกมาโปรโมทรายการแข่งขันกอล์ฟ เลยทำให้ราคาที่ขายจริง ๆ ถูกมาก ๆ ครับ (แน่นอนว่าเวลาค้าขายต้องมีตัวที่ทำกำไร กับตัวที่ทำเอาชื่อเสียง ซึ่งตัวนี้ครับ เน้นชื่อเสียงเต็ม ๆ ครับ ) ซึ่งที่ผมบอกว่าถูกมากเพราะถ้าในสเป็คแบบนี้พี่ลองเทียบกับรุ่นที่เป็นตัว เอ็มเพอเร่อซิครับ ทุกอย่างเหมือนกันเปลี่ยนที่ผ้าหุ้มราคาโดดไปไกลมากครับ 5-6 หมื่นเลยครับ ซึ่งสเป็คภายในก็ไม่ต่างกันครับ โดนตัวนี้ภายในเน้นเลยครับ สปริง Posture Tech แต่เป็น Unicased และเน้นผิวหน้าที่เสริมตัวชั้นที่หนา ๆ โดนเน้นหนัก ๆ เลยคือยางพาราครับที่ให้เบอร์ยางที่ออกแนวนุ่มและผสมด้วยการใส่ตัวโฟมยางที่มีค่าความนุ่มที่สูง เลยทำให้ที่นอนตัวนี้ออกฟิวนุ่มแต่และรับตัวมากครับ ซึ่งถ้าถามว่าน้องเด่งเยอะมั้ยบอกเลยว่าตัวนี้ยังมีเด่ง ๆ อยู่บ้างนะครับในแรงกดเฉพาะจุดนั้น ๆ หรือเด่งเฉพาะจุดนั้น ๆ ที่มีแรกกดครับแต่ไม่มากครับ...แต่ถ้าถามว่าคนข้าง ๆ สะเทือนมั้ยบอกเลยครับว่าแทบไม่รู้สึกครับ ตัวนี้ฟิวการนอนจะออกห่อตัวแต่ไม่จมตัวไม่ยวบตัวนะครับ พูดง่าย ๆ ว่าถ้าชอบที่นอนนุ่ม ฟิวโรงแรม 6 ดาว และเน้นเรื่องความทนทางด้วย ผมว่าตัวนี้ผ่านเลยครับ หรือพี่ลองไปเทสเพื่อเอาเป็นเบสพื้นฐานในการเปรียบเทียบดูก็ได้นะครับผม

ซึ่งตัวนี้ราคาจะอยู่ประมาณ 4 กลางถึง 4 ปลายแต่ถ้าราคายังแรงอยู่ ตรงนี้พี่ลองดูเป็นตัว Ocean ควบคู่กันดูด้วยนะครับ ฟิวคล้าย ๆ แต่ราคาเบา เบา ครับผม แต่ป็นสปริงแบบ Posture Techนะครับผม

 

........................................................

 

 Collection สปริง Dual Support System หรือ DSS

 
 
 


ตามรูปเลยครับ แพ็ทฟรอม พี่ลองดูดีดี ยังเป็นแบบ Collection สปริง Posture Tech แต่ตัวแต่ DDS จะเด่นกว่าตรงที่หัวของสปริงจะมี Syner-Flex หรือ จงอย (อันนี้ผมเรียกเองครับ) เกลียวขึ้นมาอีก 2 เกลียว ทั้งข้างบนและข้างล่าง ซึ่งมีการออกแบบมาให้ตัวเนื้อสปริงมีความยืดหยุ่นที่สูง และต้องไวต่อแรงกดทับเป็นที่มากกว่า 2-3 เท่าของสปริงของธรรมดา และช่วยในการพยุงให้เวลานอนนั้นให้ช่วงหลัง สะโพก และต้นขาอยู่ในระนาบแนวตรงตลอดเวลาในทุกท่าที่นอนครับ ซึ่งผมเองบอกเลยครับ ตัวนี้คือที่สุดของสปริงที่เป็นรุ่นมาตรฐานนะครับ เหมาะมากสำหรับพี่พี่ ที่รูปร่างใหญ่แต่ชอบนอนที่นอนนุ่ม ๆ เพราะตัวนี้เนื่องจากสปริงมีจงอย เลยทำให้เวลานอนลงไปแล้วเหมือนสปริงมี 2 สเต็ปครับ ... คือสเต็ปแรกจะนุ่มและถ้าน้ำหนักเยอะเกินตัวเบสที่เป็นสปริงแกนกลางจะคอบพยุงไว้ครับ ไม่ให้ที่นอนเป็นหลุมหรือเป็นแอ่งมากเกินไปครับ พี่นอนยังไงสปริงก็จะดันหลังไปไม่ใช้ยุบเกิน 2-2.5 นิ้วครับ เอาง่าย ๆ ถ้าพี่ท่านไหนชอบฟิวการนอนแบบลอย ๆ ประหนึ่งเหมือนนอนบนปุยเมฆ(ก็ว่าไปนั้น) ต้องสปริงแบบนี้เลยครับ และเนื่องจากสปริงมีความไวมากในการตอบสนอง....พี่ครับ ไม่ว่าพี่จะพลิกตัวถ้าไหน ตอนไหนและเร็วแค่ไหน ที่นอนในระบบสปริงตัวนี้จะคืนตัวรับและแนบตามหลังพี่ทันทีเลยครับโดยไม่มีดีคำว่า ดีเลย์ คืนตัวช้าหรือหนืดตัวเลยครับ ซึ่งสปริงรุ่นนี้ถือว่าเป็นสปริงที่ออกแบบมาสำหรับพี่ที่ชอบนอนที่นอนนุ่มและเปลี่ยนท่านอนบ่อย โดยที่พี่ไม่ต้องกังวลเลยครับว่าที่นอนนุ่มเวลาพลิกตัวจะลำบากครับ และแน่นอนว่าเรื่องความสั่นสะเทือนเวลานอนตัวนี้ถือว่านิ่งและเสถียนมากครับ เพราะโดยรุ่นที่เป็นสปริง DSS ที่เป็น Syner-Flex นั้น เดี๋ยวนี้เค้าใช้เทคโนโลยี ที่เป็น Unicased แบบ KeyGuard มาควบคู่ด้วยครับ ซึ่งตัว Unicased แบบ KeyGuard นั้นการทำงานจะพอพอกับตัว Unicased แบบปกติแต่จะได้เรื่องของความเบาของตัวที่นอนและความแข็งแรงทางด้านขอบข้างเตียงที่มีมากกว่าครับ ซึ่งแน่นอนว่าการทำบล็อกที่หนาและแข็งแรงมากกว่า ตัว Unicased เดิม ก็จะส่งผลให้ที่นอนจะมีความ      เสถียนมากขึ้นกว่าเดิมพอสมควรเลยครับ

ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ

ถ้าเป็นสปริงตัวนี้คงหนีรุ่นนี้ไม่ได้ครับคือตัว sealy รุ่น HERITAGE ซึ่งไม่ว่าจะเป็น เซลเด็ก ยังเซลสูงอายุต่างบอกกันว่า

รุ่นนี้มันคือที่สุดของสปริง DDs ที่เป็นรุ่นมาตรฐานครับ

 

sealy รุ่น HERITAGE

 

 

 
 


ตัวนี้ก็อย่างที่บอกครับ จุดเด่นของตัวนี้เลยคือ .... ระบบสปริงที่ทำให้ตัวนี้อยู่ยงคงกะพันมากครับ ซึ่งตัวนี้มีมาตั้งแต่ผมพึ่งเข้าวงการที่นอนเลยครับ และเป็นที่รู้จักกันดีว่า ตัวนี้คือรุ่นที่ดีที่สุดของซีลี่ ซึ่งถ้าพี่พี่ท่านไหนไม่ติดเรื่องงบประมาณ แน่นฟิวการนอนโรงแรมแบบ 5-6 ดาว ต้องตัวนี้เลยครับ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง วัสดุทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คัดสรรมาเพื่อใช้งานได้จริง
ไม่ใช่คัดสรรมาเพื่อโชว์ แสนยานุภาพ แบบรุ่นอื่น ๆ อย่างตัวแฮมตั้น หรือ แกรนดัว ซึ่งบอกตามตรงครับ รุ่นเหล่านี้แพงแบบไม่มีสาเหตุครับ อันนี้ในความคิดผมนะครับ ย้ำนะครับเป็นความคิดส่วนตัวที่ผมกรองมาจากประสบการณ์ครับ ไม่จำเป็นต้องซื้อที่นอนหลักแสนก็ดีได้ครับ เพราะตัวนี้ อยู่ที่หลัง 7-8 เองครับ save ไปตั้งหลายหมื่น แต่คนเราก็นานาจิตตังนะครับ บางคนซื้อเพราะคุ้มค่า บางคนซื้อเพราะต้องการเป็นที่สุด ซึ่งตรงนี้ก็สุดแล้วแต่ครับแต่จากฟิวที่ใช้งานเองจริง ๆ ผมว่าต่างไม่เยอะ หรือพี่บางท่านนอนอาจจะไม่ต่างเลยก็ได้ครับ และเวลาเปิดในส่วนของตัวชั้นที่เสริมมาดู ตัววัสดุที่เสริมรวมไปถึงความหนาก็แทบไม่ต่างครับ ซึ่งตรงนี้พี่ลองดูนะครับ ลองเปรียบเทียบดูครับ ของแบบนี้อาจจะไม่ต้องเชื่อผม อ่านเป็นแนวทางและสุดท้ายพี่ตัดสินใจเองได้เลยครับผม

 

.......................................................

 

Collection สปริง Dual support individual and Unicased หรือ dsi

 
 

 
 


สปริงตัวนี้....ถือว่าเป็นตัวสปริงที่มาใหม่ ที่พึ่งออกมาได้ไม่นานของทาง sealy นะครับ ซึ่งอย่างที่พี่หลาย ๆ ท่านทราบกัน ยี่ห้อนี้เค้านี้สปริงแบบฟิวโรงแรมเด่ง ๆ นิดนึงอะไรแบบนี้นะครับ แต่เนื่องจากทนกระแสสปริงแบบแยกอิสระไม่ไหวซีลี่ เลยใช้เทคโนโลยี่ที่ตัวเองมีการค้นคว้าระบบสปริงที่เป็นเอกสิทธิของตัวเอง....แต่ต้องสปริงที่เน้นเรื่องการรองรับและแยกอิสระออกจากกัน โดยการรองรับจะต้องไม่ด้อยไม่กว่าสปริงรุ่นเดิม แต่ต้องเป็นสปริงแบบแยกอิสระที่เน้นเรื่องการลดแรงสั่นสะเทือนเวลานอนของคนข้าง ๆ ครับ ซึ่งออกมาเป็น ตูมมมม โกโก้ครั้น เอ้ยยย .... ไม่ใช่และครับ .... เออมาเป็นตามรูปเลยครับ เป็นระบบสปริงที่ออกแบบมาใส่ในซอกเก็ทแท่งโฟมจะให้ความยืดหยุ่นที่อิสระ และรองรับได้ดีกว่าสปริงในรุ่นเดิมของตัวเองเพราะสปริงจะไม่ต้องกังวลถึงการรั้งในส่วนของตัวสปริงครับ ทำให้รองรับหลังได้ดีมากครับ อย่างเช่นพี่บางท่านที่ก้นงอลมาก ๆ หลังแอ่นมาก ๆ ต้องตัวนี้เลยครับ ถึงจะ ok รับหลังได้อย่างกระชับ และพี่สามารถเลือกฟิวการนอนได้ว่าต้องการให้นุ่มแค่ไหนหรือแน่นแค่ไหนด้วยครับ เพราะว่าส่วนใหญ่พี่ที่หลังแอ่นมาก ๆ หรือก้นงอลมาก ๆ มักจะนอนที่นอนแน่นไม่ได้ต้องนอนที่นอนนุ่มเพียงอย่างเดียวซึ่งบางทีก็จะขัดต่อความชอบในการนอนหรือรสนิยมในการนอนของพี่พี่นะครับ ซึ่งสปริงตัวนี้สามารถตอบโจทย์พี่ได้อย่างแน่นอนครับ และแน่นอนว่าเรื่องความเสถียน...ในการรองรับรวมไปถึงการลดแรงสั่นสะเทือนเวลาอีกคนนึงนอนพลิกตัวแรง ๆ ตัวนี้สามารถทำได้ดีมากครับ พูดง่าย ๆ เลยว่า.....นอนลงไปแล้วอีกคนนึงพลิกตัว นิ่งมากครับ เกือบจะไม่รู้สึกเลยก็ว่าได้ครับ.... ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ที่นอนเสถียนมากขนาดนี้ ไม่ใช่แค่สปริงอย่างเดียวนะครับ แต่เป็นในส่วนของตัวขอบที่นอนด้วยครับที่เป็นระบบใหม่ซึ่ง
ผมเองเคยพูดไปแล้วในสปริง DSS ครับคือตัวขอบ Unicased ที่เป็นตัว KeyGuard ซึ่งตัวนี้จะเป็นเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์ล่าสุดของทาง sealy เลยครับ ที่เอาตัว Unicased ชนิดแบบอย่างหนามาปิดรอบ 4 ด้านของตัวที่นอนและในแต่ละด้านจะมีรูในส่วนของชั้นที่เสริม เพื่อรีดอากาศให้มีการผ่านถ่ายเทได้ดีครับ ทำให้ที่นอนไม่เกิดอาการกลิ่นอับ และ ชื้นครับ และที่สำคัญ ขอบ Unicased ที่เป็นตัว KeyGuard จะช่วยให้เวลาพี่นั่งหรือนอนทางด้านของเตียง ขอบเตียงจะไม่ทรุด หรือเวลานอนลงไปหรือนั่งลงไปที่นอนขอบจะไปล้มหรืออาการที่เรียกว่านั่งขอบและตัวไหลครับ แต่แน่นอนว่าในรุ่นที่เป็นส่วนของตัว dsi ขอดียังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้นะครับ ในทุกรุ่นที่เป็นตัวสปริง dsi เนื่องจากเป็นตัว top และเป็นตัว Collection ใหม่ส่วนใหญ่ ไม่ซิต้องบอกว่าทุกรุ่นน่าจะถูกกว่าครับ จะมาพร้อมกับผ้าหุ้ม Argentum (อาเก็ตตั้ม) ที่เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นตัวผ้านิสติ้งที่เน้นการห่อที่หนาเน้นความฟูและยืดหยุ่นครับ....มากครับที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีโฟรกว่าผ้าที่เป็นผ้านิดติ้งแบบปกติครับ และผ้าตัวนี้ยังมีผสมของตัวสาร ซิลเวอร์ไอออน ทำให้ผ้าที่หุ้มตัวที่นอนนั้นสามารถความคุมความชื้นสัมพัทธ์ของร่างกายได้เป็นอย่างดี แน่นอนความในเมื่อควบคุมความชื้นได้แบบนี้พี่พี่มั่นใจได้เลยครับว่า เรื่องเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากความชื่นจากเหงื่อเวลานอนของเรา นั้นไม่มีแน่นอนครับและยังส่งผลให้เวลานอนลงไปแล้วร่างการรู้สึกถึงความเย็นที่มาจากตัวที่นอนครับเรื่องนอนลงไปแล้วที่เดิม ๆ แล้วมีอาการเหงื่ออกที่หลังแขน หรือส่วนอื่น ๆ ที่เกิดจากแรงกดทับนั้นไม่มีแน่นอนครับผม

 

ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ

 
 
 

 


เนื่องจากสปริงรุ่นนี้พึ่งออกมามาในปีใหม่ ๆ แน่นอนครับการออกแบบตัวที่นอนก็จะใหม่ตามไปด้วยครับ...ดูจากทรงที่นอนก็รู้ได้เลยครับว่าน่าตาร่วมสมัยมากครับ.....แต่ในรุ่นนี้เรียนพี่ตามตรง รุ่นชิ่งตำแหน่งเยอะมากครับ...แต่รุ่นที่ผมนอนและเทียบกับราคาที่ฟิวการนอนและวัสดุ ที่ถือว่าคุ้มค่าที่สุดผมเองคงต้องให้เป็นตัว sealy รุ่น Audrey ครับ

sealy รุ่น Audrey

ที่ผมเลือกตัวนี้เพราะ จริง ๆ แล้วโดนสเป็คโดยรวมสปริง DSI จะมีฟิวการนอนที่ถือว่าออกแน่นกว่าสปริงที่เป็นตัว Posture Tech อยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราเลือกที่นอนจริงๆ ผมเองแนะนำให้เลือกตามคาแล็กเตอร์ของตัวสปริงเป็นเมนนะครับ เพราะถ้าพี่ซื้อที่นอนผิดคาแล็กเตอร์จากตัวสปริงแล้วนั้น พี่อาจจะได้ที่นอนที่สเป็คเกือบดีแต่ราคาที่แพงนะครับ แต่ถ้าพี่ซื้อที่นอนที่ให้ตรงตามคาแล็กเตอร์สปริงแล้วนั้นพี่จะได้ที่นอนที่เป็นสเป็คตามธรรมชาติของตัวสปริง ในฟิวนั้น ๆ แล้วพี่ก็ไม่ต้องจ่ายแพงครับ

เปรียบง่าย ๆ เหมือนกับ พี่ซื้อจักยานเสือภูเขาไปขับทางเรียบและไปเปรียบความเร็วกับเค้า หรือ พี่ซื้อจักยานเสือหมอบไปปั่นในป่า และไปตามจักยานเสือภูเขา ครับ ซึ่งมันก็ใช้ได้ แต่มันจะติด ๆ ขัด ๆ อะไรแบบนี้ครับ และถ้าอยากให้ได้ให้ดี ก็ต้องลงราคาที่แพงกว่าสิ่งที่ควรจะเป็น แต่ซึ่งถ้าพี่ซื้อตามการใช้งานและรูปแบบสปริง พี่ก็จะได้ฟิวที่นอนที่ดีโดยที่ไม่ต้องจ่ายแพงครับ หรือถ้าพี่ท่านไหนมีงบประมาณหน่อยก็ ได้แบบขั้นเทพสุด ๆ ไปเลยครับผมม

ซึ่งผมมองว่าตัว Audrey น่าจะเป็นที่นอนสปริงที่แยกอิสระที่คุ้มค่ามากครับ ซึ่งฟิวการนอนถือว่าออกแนวมิเดี่ยมครับ ซึ่งตรงตามสเป็คของฟิวสปริงรุ่นนี้เลยครับ และผิวหน้าตัวที่นอนจะเสริมตัวยางพาราที่ออกนุ่มอยู่แล้วจะทำให้เวลานอนลงไปแล้วตัวยางจะช่วนในการรองรับตามหัวไหล่และข้อต่อได้ดีมากครับ แต่ตัวที่นอนเวลานอนลงไปแล้ว ฟิวจะออกไปทางนุ่มนุ่มนิด ๆ แต่แน่นซึ่งถือว่าเป็นตัวที่ถ้าพี่พี่เน้นเรื่องสุขภาพการนอนที่ แก้ปวดหลังจริง ๆ ตัวนี้จะเป็นอีก 1 ตัวที่ออกแบบมาโดยตรงเลยครับผม

 

........................................................ 

 

  Sealy Collection HYBRID

 
 
 
 
 
 

สุดท้ายก็มาถึงนะครับ Collection ที่ถือว่าดีที่สุด คุ้มค่าที่สุดในตระกูลตัว top ของซีลี่ครับ ซึ่งเป็นอีก 1 ตัวที่เป็นสเป็คปัจจุบันถ้าพี่พี่ถ้าจะเล็งรุ่นบน ๆ แล้ว หรือที่นอนระดับ 100,000+ ต้องไม่ลืมตัวนี้ครับ Collection HYBRID เลยนะครับ ตัวนี้จะเป็นตัวที่ถือว่าทำออกมาได้ดีมากครับ ศักดิ์ศรี ไม่แพ้ตัวเป็นแสนแต่พี่ครับราคาเพียงหลักหมื่นเองครับ ซึ่งถ้ารุ่นนี้คอ saely ต้องไม่ลืมดูนะครับ....และถือว่าเป็นรุ่นที่ ทันสมัยที่สุด และ เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี่มากครับ

 
 
 

 


ตัวนี้ต้องบอกพี่ตามตรงเลยครับว่า เนื่องจากเป็นสเป็คที่ทางอเมกานั้นฟิกมา ทั้งสเป็กและราคาเลยทำให้เป็นที่นอนที่เนื้อหอมมากครับ และจะมีชื่อเรียกที่ต่างกันออกไปในแต่ละทีนะครับ ซึ่ง ถ้าเป็นร้านทั่ว ๆ ไป ตัวรุ่นแพง จะใช้ชื่อว่า เอ็กซิเร้น แต่บางทีจะใชเชื่อว่า เซเลโน่ครับ แต่ถ้าตัวรุ่นเรื่มต้น ทั่วไปจะใช้ อีนิกม่า แต่บางที่จะใช้ โมด้า ครับ ซึ่งเพียงแค่ชื่อเท่านั้นนะครับที่เปลี่ยน แต่ส่วนอื่นตัวร่างกายที่นอนสเป็คที่นอนนั้นเหมือนกันทั้งหมดครับผม

ซึ่งตัวที่ผมจะนำเสนอนั้น....จะเป็นเพียงรุ่นที่เด่นรุ่นเดียวนะครับคือรุ่น Excellence (เอ็กซีเร้น) ตัวนี้ผมเองบอกได้นะครับว่าตัวนี้เป็นตัวเดียวที่เป็นตัวที่เด่นมากครับ และถือว่าเป็นรุ่นที่ ดีที่สุด ในยี่ห้อซีลี่เลยก็ว่าได้ครับในทั้งหมดเท่าที่ผมลองเทสมาครับทั้งสเป็คที่ล้ำมากและราคาที่ไม่แพงมีที่มาที่ไปมีเหตุและผลครับซึ่งที่ผมบอกแบบนี้เพราะ ตัว Excellence จะเป็นตัวที่ผสมผสานด้วยสปริง dsi ที่เป็นสปริงที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ของซีลี่ และ ผิวหน้าตัวที่นอนจะเสริมด้วยเทคโนโลยี่ก้าวล้ำกว่ายี่ห้ออื่นคือ ตัว top ที่เป็นตัวยางพาราผสมคู่กับตัวเมมโมรี่ และโรยหน้าด้วย OPTI COOL ครับซึ่งเป็นตัวเม็ดบีสตัว Cool gel ทั้งตัวผิวหน้าตัวที่นอน ซึ่งเวลาพี่นอนลงไปแล้วนั้น เรื่องของความหนืดเวลานอน....และเรื่องของการบล็อคหลังกระชับหลัง ดีมากครับ และการทำงานของ Cool gel จะทำให้พี่ไม่มีความรู้สึกถึงความร้อนที่กลับขึ้นมาเลยครับ และบวกกับผ้าที่หุ้มเป็นแบบ Forever Flex ซึ่งให้การยืดหยุ่นได้มากกว่าตัวผ้า นิสติกแบบปกติถึง 5 เท่า เท่าให้เวลาพี่ลองนอนลงไปแล้วจะรู้สึกว่าที่นอนจะโคล้งบล็อคหลังตามรูปหลังได้ดีและมากกว่าทุก ๆ รุ่นของตัว ซีลี่เลยครับ และยังมีเทคโนโลยี่ที่เป็นแบบ Coresupport center ซึ่งจะเน้นตัวแผ่นตรงกลางที่เป็นวัสดุที่เป็นเอกสิทธิที่นอนซีลี่ ให้มีความนูนออกมาเป็นทรงหลังเต่า เพื่อย้ำและให้เน้นต่อแรงกดของหลังที่ลงต่อตัวที่นอน ให้มีความกระชับมากขึ้นครับ และยังใช้เทคโนโลยี silideEdge เพื่อให้ทางด้านขอบที่นอนนั้นมีความเสมอเท่าตัวที่นอนเพื่อให้พื้นพี่เวลานอนจะมีเพื่มมากขึ้นครับ ซึ่งถ้าเป็นยี่ห้ออื่นหรือรุ่นอื่น ๆ .... เวลาพี่นอนลงไปแล้วนั้น..ตรงขอบเตียงไม่นั่งลงไปแล้วไหลหรือไม่ก็ขอบแข็งเป็นสัน ซึ่งตัวนี้จะไม่เป็นครับ และเป็นเพียงรุ่นเดียวที่ใช้เทคโนโลยี่นี้นะครับ และผ้าที่หุ้มยังใช้เทคโนโลยี่ SmartTex ซึ่งเป็นเทคโนโลยี่ขั้นสูงในการระบายอากาศของตัวผ้าที่นอนครับ ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของตัวผ้า Argentum (อาเก็ตตั้ม) ที่ผมเคยบอกไว้ในข้างบนนะครับ เยอะมั้ยครับ กับเทคโนโลยี่ที่ผมบอกที่เค้าเอามาใส่ใน รุ่น Excellence ของซีลี่ในตัวนี้ ซึ่งถ้าพี่ท่านไหนขอบฟิวการนอนที่เป็นแบบ เมมโมลี่ หนืด ๆ ตัว เน้นนอนท่าเดียวนาน ๆ ในระยะยาว ๆ ผมว่าตัวนี้น่าจะเป็นอีก 1 ตัวที่ พี่พี่ห้ามพลาดนะครับ .... และฟิวที่นอนตัวนี้ผมเองบอกได้เลยนะครับ ว่าไม่มียี่ห้อไหนที่สามารถทำฟิวแบบนี้ได้เลยครับ ผมเองหารุ่นเทียบตัวนี้มานานมากและครับ แต่เท่าที่หาได้คือ ยี่ห้อเท็มเปอร์ ครับ และเป็นยี่ห้อ เท็มเปอร์เท่านั้นด้วย ที่เหมือนกัน แต่ราคาที่นอนนี้ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าเป็นยี่ห้อนี้แล้ว หลัง 1 ตัวละแสนกลาง ถึง2 แสนครับ ซึ่งผมว่าถ้าจ่ายแบบนี้พี่ดูเป็นตัว รุ่น Excellence เลยครับน่าจะคุ้มค่าที่สุดครับผมม พี่พี่ท่านไหนเคยลองแล้ว ก็คงน่าจะทราบนะครับ แต่ถ้าพี่ท่านไหนยังไม่เคยลองบอกเลยว่า อย่าไปลองมันครับ เพราะเดี๋ยวงบประมาณจะบานปลายนะครับ เพราะมันดีมากและเป็นที่สุดของตัวที่นอนยี่ห้อ sealy เลยครับ

 
 
  
 
 -----------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
 
 
 

SLUMBERLAND

 
 

 

 
 
 
 

SLUMBERLAND เป็นอีก 1 ยี่ห้อนะครับที่บอกได้เลยว่า ถ้าพี่พี่ท่านไหนจะซื้อที่นอนแต่งบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด ที่ไม่สูงมาก อย่างเช่น 8-9 พัน 10000-15000 หรือ 20000 กว่า ๆ ถึง 3 หมื่น ต้น ๆ ผมเองบอกได้เลยครับว่าสลัมเบอร์แลนนั้นทำที่นอนออกมาได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสเป็ค วัสดุที่ใช้ และฟิวในการนอน ซึ่งที่เป็นแบบนี้ได้เพราะผู้บริหารทาง SLUMBERLAND นั้นลงมาจี้ติดตามเทรนที่นอนจริง ๆ ครับ และที่สำคัญยี่ห้อนี้....เรื่องโปรโมชั่นบอกเลยครับว่าอัดจริง อัดแรง และอัดตลอดปี....และสามารถคุยราคาได้แบบว่าเรียวทามเลยทีเดียวครับ ซึ่งถือว่าการทำการตลาดของเค้าทำได้แบบว่าเชิงรุกมากครับ ซึ่งผมเองที่เป็นตัวแทนใหญ่ก็ทำงานง่าย และพอทำงานง่ายผมเองก็ส่งต่อง่ายพอส่งต่อง่ายโปรดีดีก็จะมีมาเรื่อย ๆ ครับ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นผลดีกับพี่พี่ที่เป็นผู้ใช้ก็ถือว่าจะได้สินค้าที่ดีราคาถูกไปใช้ครับ และที่สำคัญต้องยอมรับในฝ่ายผลิตและออกแบบของทางที่นอน SLUMBERLAND นะครับ มีความขยันมากออกรุ่นใหม่ ๆ มาแทบทุกเดือน( ซึ่งพี่ครับ บางทีผมตามไม่ทันครับ บางทีผมเองยังไม่เจอหน้าหรือลองเทสเลย พี่ก็ยกเลิกรุ่นนั้นไปแล้ว ซึ่งมาไว ไปไวมากครับ ) แต่ก็ยอมรับครับ รุ่นที่ทำออกมาถึงแม้จะไปไวมาไวมากแต่รุ่นที่ทำออกมาในหลาย ๆ รุ่นก็ถือว่า โดนมากครับ ทั้งราคาและสเป็คครับ....ซึ่งตัวที่อยู่รอดได้นั้น เกิดจากทำตัวใหม่ออกมาสู้รุ่นที่เป็นรุ่นมาตรฐานเดิมไม่ได้ เลยทำให้รุ่นนั้น ๆ หายไป ไม่ใช่ว่าทำออกมาไม่ดีนะครับ มัน ดี แต่บังเอิญรุ่นเก่า ๆ หรือรุ่นมาตรฐานรุ่นก่อนทำออกมาดีมาก ๆ อยู่แล้ว เลยทำให้การทำรุ่นใหม่ ๆ ออกมาแล้วโดนนั้นปัญหาสำคัญคือความคุ้มค่าของราคา และสเป็คสู้ รุ่นเก่า ๆ ที่เป็นรุ่น อมตะ ไม่ได้อย่างมาก อย่างตัว เช่น royal impression หรือ new royal Empires หรือตัว Temp Smart II และ Temp Smart III ที่เป็นในส่วนของตัวสปริง และยังมี ในส่วนของตัวที่นอนที่เป็นยางพาราสังเคราะที่เป็นยางเกรดสูงผสมยางพาราหรือ top ยางพาราอย่างตัว โพสเจอร์ ซอพ หรือตัว พรีมีโอ้ ซึ่ง 2 ตัวนี้คือรุ่นเดียวกันนะครับ ซึ่งรุ่นเหล่านี้ถือว่าเป็นรุ่นที่มีมาตรฐานที่สูงมากครับ เปรียบเสมือนกำแพงที่สูงมากจะจะคอยขวาง รุ่นใหม่ ๆ ที่จะไม่ได้เกิดครับ แต่รุ่นใหม่ ๆ ที่ทำออกมาก็มีเยอะมากครับ พี่พี่ก็ลองเลือกดูเปรียบเทียบควบคู่ด้วยนะครับ....เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เดี๋ยวจะหาว่าผมหัวโบรานไม่ยอมรับรุ่นใหม่ อิอิ

SLUMBERLAND ถ้าวัดยี่ห้อต่อ ยี่ห้อน่าจะเป็นยี่ห้อที่ทำยอดขายได้มากที่สุดนะครับในประเทศไทยตอนนี้ครับ เพราะเนื่องจากเค้าทำสเป็คที่นอนที่ราคาไม่แพงมากในเร้นราคา ไม่เกิน 35,000 ได้ดีมาก อาจจะพูดได้ว่า ดีกว่ายี่ห้ออื่น ๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่ง ซึ่งตรงนี้พี่ต้องลองเทสดูนะครับ โดย SLUMBERLAND จะแบ่งที่นอนสปริงของตัวเอง ออกเป็น 3 แบบนะครับ คือ สปริง ps 1200 pps 1500 และ pps 3600 ครับ ซึ่งรายระเอียดมีตามนี้นะครับ

 

Ps 1200

 
 
 

 
 
 
 


ก็เป็นเอกลักษณ์ของสปริงยี่ห้อนี้เลยนะครับ ....คือสปริงของเค้าจะใช้การทอของขดลวดสปริงเพียง 1 เส้นที่เป็นขดลวด คอบ่อนชนิดพิเศษที่ไม่เป็นสนิม และมีค่าความหนาแน่นนั้นมีความเสถียนมากครับ ทนต่อแรงกด และการงอ และเน้นการสปริงตัวที่สูงครับ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ สลัม นั้นดังไม่ใช่เพียงแค่ขดลวดนะครับ....แต่ยังมีส่วนของระบบการทอสปริง และการวางรูปแบบสปริงที่ถือว่าเป็นตัวสร้างชื่ออีกด้วย ซึ่ง ยี่ห้ออื่น ๆ นั้นจะวางสปริงเป็นแบบแนวตั้ง และทำสปริงเป็นแบบรูปทรงกระบอก แต่สลัม ไม่ใช่นะครับ เพราะสลัมมองว่าการทำสปริงแบบนี้ นั้นจะสร้างให้สปริงนั้นมีแรงที่ส่งออกาให้เด่ง ให้ยวบ ซึ่งความคงทนจะน้อย ทาง สลัม เลยคิดค้นวิธีการท่อแบบใหม่คือ การทอสปริงเป็นแบบฟันปลา ซึ่งข้อดีจะมีอยู่ 2 อย่างหลัก ๆ

คือ 1 การท่อเป็นแบบฟันปลาจะทำให้...แรงกดจากตัวหัวสปริง 1จุด แยกเป็น 2 ทิศทาง ให้สปริงความนิ่ง และความเสถียนที่มี คือ 1 การทอเป็นแบบฟันปลาจะทำให้...แรงกดจากตัวหัวสปริง 1จุด แยกเป็น 2 ทิศทาง ให้สปริงความนิ่ง และความเสถียนที่มี ก็จะมากกว่าเดิม 50-60% เมื่อเทียบจากสปริงแบบเดิม ที่เป็นแบบหัวกลม ๆ ครับ

2 เมื่อวางสปริงเป็นแบบฟันปลาแล้ว....แน่นอนว่าพื้นที่ในการวางสปริงก็จะมากขึ้น ทำให้สลัมเบอร์แลน ใส่สปริงมากกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ได้มากกว่าถึง 2-5 เท่า เลยครับ เมื่อเทียบกับสปริงหัวกลมครับ แน่นอนว่าเรื่องความคงทน ถือว่าอึด ถึก ทน ย่อมมีมากกว่าสปริงแบบเดิม ๆ อยู่แล้วครับ

Ps 1200 สปริงตัวนี้....ถือว่าเป็นตัวต้นแบบที่ทำออกมาให้รองรับการการใช้งานที่หนักได้เลยนะครับ และสปริงแบบนี้ยังเป็น สปริงที่เป็นต้นแบบในการพัฒนาสปริงให้เป็นแบบ 1500 และ 3600 ด้วย ครับ

 

ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ

ในสปริง 1200 ตัว รุ่นที่ถือว่าเด่นมาก ๆ

คือรุ่น thames ครับ


 
 
 
 


Thames ตัวนี้เป็นสปริง 1200 ตัวที่ทำออกมาเพื่อทดแทนรุ่นดังในอดีตเลยคือรุ่น เออมาแชล นะครับ ซึ่งตอนนี้ เออมาแชลนั้นจวนจะได้ปลดระวางแล้วครับ เพราะเนื่องจากราคาที่ปรับขึ้นแต่สเป็คดังเดิมครับ ... เลยทำให้ไม่คุ้มค่าซึ่งพอตัว Thames ตัวนี้ออกมาปุ๊ป บอกเลยครับ ตัว เออมาแชล ก็ดับปั๊ป ทันทีครับ ... เพราะเดี๋ยวนี้ผมเชื่อว่า พี่พี่ที่เป็นผู้บริโภค นั้นมิได้โง่ ไปว่าผู้ขายหรือผู้ผลิต ซึ่ง ถ้าวางเทียบกันแล้ว thames ราคาอยู่หลักพันปลาย ๆ แต่ เออมาแชลโดดไป หมื่นกลางซึ่ง ถือว่าต่างกันเยอะมากครับ แต่ฟิวการนอนการนั้นไม่ต่าง แถมดีไม่ดี สเป็ค thames น่าจะดีกว่าด้วยซ้ำไปครับ ซึ่งตรงนี้ พี่พี่หลาย ๆ ท่านได้ลองนั่งเทียบแล้วก็หันมาจับจ่องที่ตัว thames ทันทีเลยครับ ซึ่งฟิวตัวนี้อยู่ในกลุ่มฟิวที่นอนแบบ มีเดี่ยมครับ ซึ่งเวลานั่งหรือนอนลงไปแล้วนั้น การรองรับถือว่าดีมากครับในเร้นราคาไม่เกิน 10,000 นะครับ ผมว่าตัวนี้คุ้มค่ามากครับ เพราะผิวหน้าที่นอนจะเสริมตัวโฟมยางพาราให้ด้วยครับ ซึ่งให้ฟิวการนอนแบบนุ่มและหยุ่นพอประมาณ ในกรณีเทียบกับตัวอื่น ๆ แล้ว...พี่ครับรุ่นอื่น ๆ ในยี่ห้ออื่น ๆ นั้น นั่งลงไปแล้ว อยากจะกรี๊ด รู้สึกได้ถึงตัวสปริงเลยครับ แต่ตัวนี้ไม่รู้สึกเลยก็ว่าได้ครับ ฟิวดีเหมือนตามพวกโรงแรมใหญ่ ๆ เลยครับในห้างพวก ดีลักซ์ หรือ ซูปเปอร์ดีลักซ์ ครับ ซึ่งตัวนี้แน่นอนว่าสปริงเยอะได้เปรียบ พี่ครับ .... ยี่ห้ออื่นรับประกันแต่ 8 ปี แต่ตัวนี้ ปาไป 12 ปีเลยครับ และที่สำคัญ เสีย เครมจริง ซ่อมจริงและฉับไวมากครับผม แต่พี่พี่บางท่านอาจจะมองว่า เฮ้ย น้อง หน้าตาที่นอน โบราณจัง อยากได้แบบหน้าตาร่วมสมัยและนุ่มกว่านี้อีกนิดนึง .... พี่ครับ ถ้าพี่มีโจทย์แบบนี้มาให้ผม ผมเองบอกได้เลยครับ พี่ลองดูเป็นตัวที่สูงอีกนิดนึงครับ คือรุ่น Fantastic ครับ ซึ่งตัวนี้ แพ็ทฟลอมเหมือนกับตัว thames ครับ แต่ผิวผ้าข้างหน้าจะเปลี่ยนไปเป็นตัวผ้านิสติ้งครับ ทำให้เวลานอนลงไปแล้วจะออกนุ่มขึ้นอีกนิดนึงและเรื่องระบายความร้อนก็จะดีมากขึ้นครับ ซึ่งราคาก็ต่างกันอีกนิดนึง ครับผม แค่พันกว่า ๆ เองครับ แต่ผมบอกพี่เลยครับ 2 ตัวนี้เมื่อเทียบสเป็คจริง ๆ มันจะ

เทียบได้กับรุ่น CHERISH / FIRMREST/ BALANCE/ FIRM LINE ซึ่งฟิวการนอนจะไกล้ ๆ กันครับ แต่ตัว thames / Fantastic จะจ่ายในราคาถูกกว่ากันแบบ คุ้มค่ามากครับ พี่ลองดูนะครับผม

 

.......................................................
 
 

Ps 1500

 

 


สปริงระบบนี้ถือว่าเป็นสปริงที่ทำออกมาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครับ....และยังเป็นสปริงรุ่นที่ถือว่าเป็นตัวชูโรงให้แก่ทางสลัมเบอร์แลนเลยนะครับ เพราะสปริงรุ่นนี้ถือว่าเป็นที่นิยมมาก ณ ตอนนี้ครับ เพราะเนื่องจากราคาไม่แพงในค่าตัวของที่นอน และฟิวลิ่งเทียบเคียงกับตัวที่นอนที่มีเร้นราคา 3-5 หมื่นเลยทีเดียวครับ ซึ่งสปริงตัวนี้มีจำนวนลูกสปริงทั้งหมดเลยคือ 1500 ตัวครับ ซึ่งเน้นความแข็งแรงเวลานอน .... เลยทำให้การรับประกันของสปริงยี่ห้อนี้นันมีถึง 15 ปีครับ ซึ่งเน้นนะครับ รับประกัน 15 ปี ซ้อมจริง เปลี่ยนจริง เครมจริง โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ....และแน่นอนว่าสปริงที่แยกอิสระของสลัมเบอร์แลนนั้นแตกต่างจากยี่ห่ออื่น ๆ อยู่เยอะมากครับ .... ซึ่งแน่นอนว่า 1ในที่แตกต่างคือจำนวนสปริงที่เยอะ และที่สำคัญอีก 1 อย่างคือ....ที่คลอบหรือตัวที่หุ้มตัวระบบสปริงของระบบนี้เป็น โฟมวิทยาศาสตร์ ครับ ซึ่งเน้นความหนืดเวลานั่งหรือเวลานอน ทำให้เวลานอนลงไปแล้วที่นอนจะโคล้งรับตามหลังได้ละเอียดว่าตัวสปริงที่เชื่อมติดกันครับ และการกระจายน้ำหนักจะเน้นแบบตามจุดที่มีแรงกดทับเท่านั้นครับ เลยทำให้ฟิวการนอนเทียบเคียงกับที่นอนที่เป็นแบบที่นอนยางพารามากครับ .... และโดยตัวโครงสร้างการวางที่นอนเป็นแบบรูปทรงกระดูกงู เลยทำให้ลักษณะการยุบตัวของตัวสปริงจะไล่ตามแนวกดเป็นรูปแบบแนวตรงซึ่งจะมีความเสถียนกว่าสปริงที่เป็นแบบพ็อกเก็ตสปริงธรรมดาถึง 3 เท่าครับ และการเรียงตัวโครงสร้างสปริงแบบนี้จะทำให้สปริงชิดกันมากครับซึ่งจะเป็นผลดีคือ เวลานอนลงไปแล้วพวกชั้นเรเยอร์ที่เสริมจะไม่มีวันตกลงในร่องสปริงเลยครับ ผิวหน้าตัวที่นอนจะเรียบเสมอกันตลอดอายุการใช้งานเลยก็ว่าได้ครับผม ซึ่งถือว่า สปริงรุ่นแบบนี้คุ้มค่ามากครับ ละเร้นราคาก็อยู่ประมาณ 2-3 หมื่นกว่า ๆ เองครับ

 

ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ

 

slumberland รุ่น Royal impression

 
 
 


 


แน่นอนว่ารุ่นนี้ ดังมากครับ คือ slumberland รุ่น Royal impression ครับ ซึ่งพี่พี่น่าจะคุ้นหู คุ้นตากับ ยี่ห้อนี้และรุ่นนี้มากครับ เป็นรุ่นที่ถือว่าสุดคุ้มครับ เพราะราคาค่าตัวอยู่ในเร้นราคา 20,000 กว่า ๆ เองครับ ไม่เกิน 3 หมื่นครับ ซึ่งราคาจะผันแปรตามรายการของแถมที่พี่เลือกครับ แต่ตรงเรื่องราคาน่าจะไม่ใช่ปัญหา แต่อยากให้เน้นเรื่องสเป็คมากกว่าครับ....ตัวนี้เป็นสปริง

ระบบ 1500 ตัว ซึ่งเป็นสปริงที่เป็นค่า k รุ่นมาตรฐาน แน่นอนครับที่ผมบอกแบบนี้เพราะสปริงถึงแม้ 1500 ตัวเช่นกัน แต่ก็มี 2 มาตรฐานครับ ซึ่งรุ่นที่เป็นตัว only สเป็กสปริงจะต่ำกว่าครับ แต่ถ้าเป็นรุ่นมาตรฐาน สเป็คจะเป็นสปริงสเป็กเต็มที่มาจากทาง อังกฤษ ครับผม ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องการยวบ การยุบนั้น สเป็ครุ่นที่เป็นตัว only จะอ่อนแอมากครับ นอนลงไปแล้วซึ่งปกติที่นอนจะนุ่มขึ้นอีก 10-15% แต่ถ้าเป็นตัวรุ่น only ที่นอนสปริงจะนุ่มขึ้นเยอะมากครับ ประมาณ 25-30% เลยครับ ซึ่งสปริงจะยวบขึ้นเยอะเลยครับไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ครับ หรือพี่บางคนบอกว่าใช้ไม่ดีเลยใช้ ๆ ไปแล้วที่นอนยวบบ้างเสียบ่อยบ้าง จุกจิก ซึ่งบางที่เพราะด้วยความว่าไม่รู้พี่ซื้อเป็นสปริงผิดรุ่นเกิดเจอรุ่น only ไป ตรงนี้ก็ เรียนพี่ตามตรงเลยครับ ว่า ซวย ไป ครับ แต่แต่ก็อย่าไปคิดมากครับ พวกนี้มีเครมประกันอยู่แล้ว เสียก็แจ้งเครมครับ อย่าไปคิดมากครับผม อะมาเข้าเรื่องต่อนะครับ slumberland รุ่น Royal impression ตัวนี้เป็นสปริงรุ่นมาตรฐานแล้ว รุ่นนี้ยังเป็นรุ่นมาตรฐาน ที่ร้านไหน ๆ ที่ใด ๆ ก็ขายได้ครับ ไม่ใช่รุ่น only อย่าพี่หลาย ๆ คนเข้าใจกันนะครับ (ซึ่งตรงนี้มันขึ้นอยู่ที่ร้านนะครับว่าจะเลือกรุ่นไหนมาวาง ) และตัวนี้ที่เน้นเป็นพิเศษเพราะ ตัวนี้เป็นรุ่นที่ถือว่าติดอยู่ใน 1 ใน 3 รุ่น ที่ขายดีที่สุดของสลัมเบอร์แลนด์ครับ ซึ่งยอดขายทั่วประเทศเยอะมากและพี่พี่หลาย ๆ ท่านใช้แล้วติดใจแนะนำให้มีการซื้อซ้ำมากที่สุดครับ (ซึ่งตรงนี้เป็นทางสลัมทำแบบสอบถามเองโดนตรงเลยครับ เลยทำให้ทราบถึงข้อมูลดิบตรงนี้ครับ ) แน่นอนว่าตัวนี้ด้วยราคาและฟิวการนอนที่เป็นสเป็คนุ่มแน่นจริง ๆ เน้นรับหลังได้ทุกสภาพ ไม่ว่าจะเป็นก้นงอล ก้ามปู หรือพี่ที่รูปร่างผอม ๆ ตัวนี้สามารถรองรับได้ทั้งนั้นครับ ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาและเป็นรุ่นที่พี่พี่ฝ่ายผลิดเอามาเป็นตัวต้นแบบ ในการผลิตออกมาในรุ่นต่าง ๆ เยอะมากครับ ซึ่งตัวนี้ข้อดีไม่ใช่แต่เพียงสปริงนะครับ แต่ตรงผิวหน้ามีเสริมทั้งโฟมยาง และยางพาราด้วยนะครับ ซึ่งจะให้ฟิวการนอนที่นุ่ม และมีความหนืดเวลานอนชวนให้เกิดความกระชับของหลังมากครับ และที่สำคัญเรื่องการนอน คนข้าง ๆ แทบไม่รู้สึกตัวเลยครับ ยิ่งพี่ชอบนอนตะแคงข้างแล้วด้วย ที่นอนตัวนี้ช่วยมากครับในการลดแรงกดทับตามข้อต่อต่าง ๆ ของทางร่างการที่นอนจริงแล้วสามารถเห็นผลได้จริงครับ ซึ่งถือว่าเป็นที่นอนรุ่นที่ครบเครื่องมากครับ ทั้งราคาและสเป็ก ซึ่งถ้าพี่พี่ท่านไหนไม่อะไรมาก หรือคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าเราชอบที่นอนฟิวแบบไหน อย่างไร พี่ครับ พี่ดูตัวนี้เป็นตัวเบสพื้นฐานเลยครับ ผมเชื่อว่าน่าจะ ถูกและดี มีความคุ้มค่าและในราคานั้นมีที่มาที่ไปมากที่สุดครับ ซึ่งตัวนี้ ถ้าเทียบจริง ๆ ... slumberland รุ่น Royal impression เทียบได้ไกล้ ๆ กับตัว renaissance / รุ่น ไอวอลี่ ครับซึ่งถ้าเทียบจริง ๆ แล้ว slumberland รุ่น Royal impression สเป็คเทียบเท่าตัว ไอวอลี่ แบบตรงตรงเป๊ะเลยครับ ไม่ต่าง แต่ต่างกันจริง ๆ คือเรื่องราคาครับ .... ซึ่งต่างกันเยอะอยู่ครับ....แต่พี่พี่หลาย ๆ ท่านมักจะโดนหลอก หรือโดนอำมาจากที่อื่น ๆ ว่าตัว slumberland รุ่น Royal impression เป็นสเป็คเท่ากับตัว Cavaler (คาวาเรีย) ซึ่งตรงนี้ต้องบอกไว้ก่อนเลยนะครับ...ว่าสเป็คต่างกันเยอะมากครับ ซึ่งถ้าเทียบราคาทุนมา ผมเองบอกพี่ตามตรงเลยครับว่าตัว Cavalier ราคาถูกกว่าตัว Royal impression /ไอวอลี่ อยู่ 3000-4000 ครับผม (พี่ก็ลองนึกดูนะครับว่าจะต่างกันขนาดไหน ) แต่ที่ร้านอื่น ๆ เน้นขายตัวนี้เพราะ Cavalier เป็นตัวที่เรียกกำไรครับไม่ใช่ตัวไฟท์ติ้งเรื่องราคาแบบตัวรุ่นมาตรฐานครับ ซึ่งตัว Cavalier จะเป็นตัวรุ่น only ที่ขายเฉพาะร้านค้านะครับผม ที่ผมบอกพี่ได้แบบนี้เพราะ Royal impression และ Cavaler ผมเองก็ดูแลอยู่ครับผม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสุดท้ายนี้ก็สุดแล้วแต่พี่พี่ที่จะเลือกซื้อเลือกหานะครับ แต่เน้นนะครับ .... ถ้าคิดอะไรไม่ออก ที่นอนแบบไหนดี พี่ยึดตัวนี้เป็นหลักเลยครับทั้งฟิวและสเป็คครับ ดีจริง ๆ ครับ ในราคา 2 หมื่นกว่า และที่สำคัญที่นอนน่าตาดีและหล่อมากครับ เอาเป็นว่า ถ้าในงบประมาณนี้ 2 หมื่น กว่า ๆ พี่ต้องมาดูตัวนี้ติดไว้เผื่อเลือกเลยครับ เชื่อผม และชีวิตพี่จะง่ายขึ้นไม่ยุงยากเวลาเลือกซื้อที่นอนครับผม


ตัวนี้เป็นตัวที่ถือว่าคุ้มค่ามากครับ และส่วนใหญ่ก็จะถูกใจพี่พี่ ที่เน้นที่นอนฟิวแบบนุ่มแน่นมาก ซึ่งต้องขอบคุณพี่  หมูน้อยหวานเย็น มาก ๆ นะครับ มารีวิวให้ด้วยครับ ขอบคุณพี่มาก ๆ ครับผมม

http://pantip.com/topic/31148056 


สนใจอ่านตามลิ้งนี้ได้เลยครับผมม

 
 
.......................................................
 
 

PPS 3600


สปริงรุ่นนี้ถือว่าเป็นเป็นตัวรุ่นสูงสุดในสเป็คตัวปัจจุบันนะครับ ที่ถือว่าเป็นสปริงที่ไม่เวอร์และใช้งานได้ดีนะครับ ซึ่งถ้าวัดกันจริง ๆ สเป็กสปริงที่สูงสุดตอนนี้คือตัว อิมพิเรียนคาม ครับซึ่งเป็นตัวสเป็ค สปริง 5400 แต่การใช้งานจริงผมว่าไม่ค่อยต่างจากตัวสปริง 3600 เท่าไหร่ครับซึ่งผมเองในความคิดผมผมเองขอบอกเลยครับว่า ตัวสปริง 3600 น่าจะเป็นตัวที่คุ้มค่าที่สุดครับ ถ้าพี่พี่หลาย ๆ ท่านจะซื้อตัวสปริง 5400 ครับ แต่ถ้าเน้นสเป็คสปริง 5400 จริง ๆ ผมว่าพี่อย่าดูเป็นตัว อิมพิเรียนคาวเลยครับผมว่าพี่ดูเป็นตัว TempSmart III หรือ TempSmart III 3.0 น่าจะดีกว่าครับ ....ซึ่งฟิวการนอนไกล้ ๆ กันครับ แต่ราคาถูกกว่ากันเยอะเลยครับผมมม ซึ่งผมมองว่าน่าจะมีความคุ้มค่ามากกว่าครับผมม .... ไม่ใช่ผมเองจะแนะนำของถูกนะครับ แต่ก็อย่างที่ผมบอกพี่พี่ไว้ข้างบนและขั้นต้นไว้ว่า “ ที่นอนที่ดีที่สุด....อาจจะไม่ต้องแพงที่สุดนะครับ ” ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ เพราะในรุ่นต่าง ๆ ที่ผมแนะนำบอกพี่ไปนั้น ผมเองได้กลั่นกรองมาแล้วว่าเป็นรุ่นที่ดีและคุ้มค่า ที่ราคาเหมาะสมกับราคาตัวที่นอนครับ และเหตุผลที่มีราคาสูงนั้นมีที่มาและที่ไปครับ ไม่ใช่แพงโดยไม่มีสาเหตุครับ ....

 

 

 
 
 


มาครับ ตรงนี้ผมเองก็นอกเรื่องมานานและครับ เรามาลงลึกถึงสเป็คตัวสปริงเลยดีกว่าครับ ว่ามันเป็นอย่างไรในสเป็คตัวรุ่นนี้ ....ตัวสปริง PPS3600 เป็นสปริงรุ่นที่สูงสุดที่เป็นรุ่นมาตรฐาน โดยพื้นฐานการทำตัวสปริงนั้น...เป็นการทอแบบสปริง 1200 ตัว แต่การจัดวางตัวที่นอนสปริงเป็นแบบ 1500 แต่การตัดวางจะพิเศษมากกว่านั้นคือ....เค้าเอาสปริงมา ซ้อนกัน 2 ชั้นครับ และเค้าแบ่งโซนการกระจายน้ำหนักเป็น 11 โซนรองรับผู้นอนที่มีความสูงตั้งแต่ 150-160 ซม ขึ้นไปนะครับ โดยจะแบ่งเป็นโซนซ้ายและขวาและขอบเตียง ตามรูปเลยครับ ซึ่งแต่ละโซน...จะแยกออกไป 3 ช่อง ซึ่งจะเน้น ในส่วนของ หัวต้นคอ โซนด้านบน ( ใช้ความหนาแน่นสปริง 165) และ หัวไหล่และตัวของผู้นอนจนถึงสะโพก ในโซลตรงกลาง( ใช้ความหนาแน่นสปริง 180) และสุดท้าย โซนด้านล่าง....นั้นจะแบ่งเป็นตั้งแต่ น่องและต้นขาครับยาวลงไป( ใช้ความหนาแน่นสปริง 165) และในส่วนของขอบต่าง ๆ นั้นจะก็จะแบ่งเป็นส่วน ๆ เพื่อการรองรับให้ดีมากขึ้นไม่ให้ขอบไหล หรือย้วยครับ ตอนเวลาพี่นั่งขอบครับ( ใช้ความหนาแน่นสปริง 180) ซึ่งถือว่าการแบ่งตามรูปแบบ แบบนี้จะทำให้การนอนที่เน้นหลังได้ดีมากครับและแน่นอนว่าในเทคโนโลยีสปริง....สปริงรุ่นนี้ให้ความนิ่งและความเสถียนมากกว่าสปริงระบบอื่น ๆ มากถึง 2-3 เท่าเลยครับ ถ้าเทียบกับสปริง 1500 ตัวนะครับ แต่ถ้าเทียบกับสปริงแยกอิสระรุ่นอื่น ๆ ก็ต่างแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับผม และเน้นนะครับถ้าพี่ท่านไหน น้ำหนักเยอะ ๆ แบบรุ่น 99 กก up และพี่ต้องการที่นอนดีดีที่เน้นรองรับ สรีระ ของพี่จริง ๆ ที่แก้อาการปวดหลังได้จริง ๆ พี่ดูเป็นสปริงรุ่นนี้เลยครับ ไม่ว่าพี่จะเลือกที่นอนแบบนุ่ม....หรือเลือกที่นอนแบบแน่น สปริงรุ่นนี้ถือว่าทำออกมาเพื่อรองรับผู้นอนต่อท่านได้ที่
น้ำหนักเยอะ ๆ ต่อท่านได้สูงมาก ๆ ครับ .... แน่นอนว่าสิ่งที่พี่จะไปพบและเจอกับฟิวสปริงแบบนี้คือ ฟิวการที่เวลานอนลงไปแล้วสปริงปลิ้น หรือนอนลงไปแล้วยวบเป็นแอ่งเฉพาะตรงที่พี่นอน รุ่นนี้ไม่เจอแน่นอนครับผม

 

ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ

 

new royal empire

 
 

 


โห...พี่ครับ ในสเป็ก 3600 ตัวนี้ มีรุ่นเด่น ๆ เยอะมากครับ คัดลำบากมากครับ แต่ถ้าให้เน้น ๆ เลยผมเองขอแบ่งเป็น 2 แบบนี้ดีกว่าครับ ..... ถ้าเป็นตัว 3600 ตัว แล้วพี่ชอบฟิวการนอนแบบที่นอนแน่น ๆ ผมเองแนะนำให้พี่ดูเป็นตัว new royal empire ครับ ซึ่งตัวนี้เป็นที่นอนสปริง 3600 ตัว ซึ่งถ้าพี่ท่านไหนชอบที่นอนที่ออกแน่น และไม่จมตัว แต่ไม่กระด้างพี่ต้องดูเป็นตัวนี้เลยครับ เพราะตัวนี้คือตำนานที่ดีที่สุดของที่นอนในฟิลลิ่งแน่นครับ ซึ่งทาง slumberland ยังสร้างตำนานนั้นจนถึงปัจจุบันครับ และผมเองก็ขอเป็นอีก 1เสียงครับ ที่สนับสนุนและลงคะแน่นให้เต็ม 100 เลยครับ กับที่นอนรุ่นนี้ครับ เพราะมันแปลกมากครับ โดยส่วนใหญ่ที่นอนที่แน่น แข็ง จะกระด้าง แต่ตัวนี้ แน่นจริง แข็งจริง แต่ไม่กระด้างครับ และเวลานอนลงไปแล้วนั้นเรื่องการรับหลังถือว่าดีมากครับ และเป็นเพียงรุ่นเดียวครับที่ผมนอนที่นอนแข็ง ๆ แล้วไม่เจ็บหัวไหล่และข้อต่อต่าง ๆ ครับ ( ผมเองเป็น 1 คนนี้ครับที่เน้นการนอนที่นอนตะแคง และปัญหาที่เจอเลยคือ เรื่องแรงกดทับตามข้อต่าง ๆ ครับ ซึ่งจะมีอาการเหน็บชาและล้าอยู่บ่อย ๆ แต่เท่าที่ผมเทสตัวนี้มา ไม่มีปัญหานี้เลยครับ ) ซึ่งตัวนี้นอกจากสปริงแล้ว ผิวหน้าที่เสริมยางพาราแล้ว ตัวนี้อีก 1 ข้อที่เด่น เลยคือมีการเสริมตัว ขนแกะ จากนิวซีแลน ครับ เข้าไปตรงผิวหน้า ช่วยให้เวลานั่งหรือนอนลงไปแล้วนั้น จะให้ผิวที่นุ่มฟู และเรื่องเวลานอนลงไปในระยะยาวนาน ๆ ตัวขนแกะจะช่วนในการปรับอุณหภูมิ ร่างกายได้ ให้อบอุ่นอยู่ตลอดเวลาครับ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกครับ คือบ้านเราร้อนอยู่แล้ว จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีขนแกะด้วยซ้ำก็นอน ok อยู่แล้วครับ....จะไปมีทำมั้ย ซึ่งผมเองคิดแบบนี้มาโดยตลอดนะครับ .... แต่พอวันนึงได้มาเทสเองจริง ๆ บอกได้เลยครับว่า การวิจัยของบริษัทใหญ่ ๆ นั้นพิสูจน์ ได้จริง ๆ ครับ เพราะจากสิ่งที่ผมเทสลงไปนั้น การนอนที่นอนที่มีขนแกะเพิ่มเข้ามา มันดีกว่าจริง ๆ ครับ ทั้งเรื่องการรองรับ และการปรับสภาพความร้อนในร่างกายก็ถือว่าดีมาก ๆ ครับ แต่ของแบบนี้ก็ เดี๋ยวจะหาว่าผมพูดไปนั้น ซึ่งของแบบนี้ พี่อยากรู้ต้องลองครับ และดีหรือไม่มาบอกน้องคนนี้ด้วยนะครับผมมมม

 
 

TempSmart II

 

 
 
 
 
 
 


อันนี้ขอเป็นสำหรับพี่พี่ที่ชอบฟิวนุ่ม ๆ บ้างนะครับ แต่นอนว่าถ้าเน้นเรื่องการนอนที่นุ่ม แต่ไม่ยวบ ต้องดูเป็นตัว ตัว TempSmart II ครับ .... ซึ่งแน่นอนว่าตัวข้างบนเป็นขนแกะ แต่ตัวนี้... TempSmart II ไม่มีขนแกะนะครับ แต่พี่ครับ เค้าใส่ขนม้าแทนครับ ซึ่งแน่นอนว่าขนแกะช่วยในการปรับ อุณหภูมิ แต่ตัวขนม้า ตัวนี้ช่วยในการยืดหยุ่นครับ และเน้นการโฟรของอากาศที่ผ่านของตัวที่นอนให้มีความลื่นไหลครับ ช่วยให้นอนลงไปแล้วเย็นครับ ไม่มีความร้อนสะสม พอความร้อนสะสมน้อย และอากาศโฟรได้ดี...แน่นอนครับที่นอนพี่จะไม่มีกลิ่นอับครับ ซึ่ง ผมว่า เป็นอะไรที่ถือว่าคุ้มค่ามากครับ พี่ลองดูนะครับ ลองหาเทสและเทียบดูครับผมมม
พี่พี่ลองดูนะครับ ซึ่งทั้งหมดนี้คือระบบสปริงของยี่ห้อ slumberland นะครับ ซึ่งผมเองก็ได้แยกออกเป็นแต่ละประเภทให้พี่พี่ได้อ่านและลงภาพให้ชมกันนะครับ ซึ่งเอาเด่น ๆ เลยข้อดีของยี่ห้อนี้คือสปริงเค้าจะมีความแข็งแรงมากครับ และแน่นอนว่าเรื่องความนิ่งและความเสถียนนั้นเป็นอะไรที่ถือว่าดีมาก ๆ ครับ ซึ่งเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ครับ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นตัวชูโรงเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับสปริงยี่ห้อนี้ครับผม

 
 
 
.......................................................
 
 

slumberland รุ่น  Permio Deluxe 

ต้องเน้น ๆ เลยครับ ตอนนี้มาแรงมากครับ

 
 
 
 




 
 
 

และอีก 1 รุ่นของ slumberland ที่ผมไม่พูดไม่ได้จริง ๆ ครับ....จริง ๆ แล้วผมเองพิมเลยตรงนี้ไปไกลมากและครับ แต่อดไม่ได้จริง ๆ ครับเลยขอย้อนมาพิมอีกซักที 1 นะครับในหัวข้อ slumberland ครับ ซึ่งในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา....แน่นอนครับอย่างที่พี่พี่ ทราบกันคือที่นอนสปริงมาแรงเพราะการพัฒนาเทคโนโลยี่สปริงนั้นมาสูงมาก ครับ และพอสปริงเริ่ม แผ่ว พี่ครับสิ่งที่ตามมาคือการพัฒนาของระบบยางพาราที่เค้าทำออกมาแบบเล่นเค้นกรรมวิธีกันทำยางแบบเข้มข้นมากครับ เลยเป็นตัวยางพาราเกรดโอมาสออกมา ซึ่งเป็นเกรดระดับพรัเมี่ยมเลยก็ว่าได้ครับ  แต่ตอนนี้แน่นอนครับ ตลาดที่นอนนั้นก็เป็นวงจรครับ ซึ่ง สปริงไปแล้ว ยางพาราไปแล้ว ยิ่งตอนนี้ด้วยแล้ว มาเลยครับ เน้นสิ่งแวดล้อม เน้นเศษวัสดุที่สังเคราะออกมาหรือใช้เทคโนโลยี่เข้ามาช่วยให้สิ่งเดิม ๆ ที่เราอาจจะมองข้ามไป พัฒนาให้ดีกว่าเดิม หรือต่อยอดให้ดีกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนครับ ผมบอกไปพี่ร้องอ๋อแน่เลยครับ กระแสที่นอนและการพัฒนาที่นอนวนกลับมาอยู่ในส่วนของยางพาราสังเคราะครับ ซึ่งเรียนพี่ตามตรงวันวนกลับไปฮิดของเมื่อ 10 ปีที่แล้วครับ แต่พี่ครับต้องเข้าใจตอนนั้นกับตอนนี้นั้นไม่เหมือนกันเทคโนโลยี่ต่างกันเยอะครับ ซึ่งเมื่อก่อนนั้นเน้น ยางพารานิดเดียง กับกาวฟองน้ำ และท่อแอร์สีดำมาอัดด้วยความร้อนครับ ซึ่งจะได้ที่นอนที่ทำออกมานั้นออกแน่นถึงแน่นมากไม่ค่อยยืดหยุ่นเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปนะครับ เทคโนโลยี่สูงขึ้นกรรมวิธีที่ดีก็มีมามากครับ...จนทำให้ตอนนี้เค้าพัฒนาจากที่นอนยางพาราสังเคราะ (เลียกง่าย ๆ คือฟองน้ำอัด ) ตอนนี้เค้าต่อยอดไปต่อยาดมาเลยกลายเป็นที่นอนตระกูล อีโค่ลาเท็ค ครับ ซึ่งตัวนี้จะใช้ยางพาราถึง 80% และใช้ฟองน้ำผมผสม 20% ครับ และอัดด้วยน้ำยางที่ความร้อนที่สูงเลยทำให้เวลานั่งหรือนอนลงไปที่นอนที่ทำมาจากวัตถุดิปชนิดนี้ พี่ครับไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ฟิวที่นอนมัน โค-ตะ-ระ เหมือนที่นอนยางพาราเลยครับ และที่สำคัญพี่ไม่ต้องจ่ายแพงครับ พี่จ่ายเพียงราคา 1-2 ใน 5 ส่วนของที่นอนยางพาราจริง ๆ ครับ ซึ่งตอนนี้กระแสที่มาแรงมากคือ POSTURE SOFT  ซึ่งตัวนี้เป็นที่นอนยางพาราสั่งเคราะตรงกลางครับ หรือตัว อีโค่ลาเท็ค แต่จะเน้นตรงนี้ ตัวนี้มียางพาราหนา 2 นิ้ว โดยประมาณ ทั้งบนและล่างครับ  ซึ่งฟิวไม่ต้องไปพูดถึงครับ แต่เนื่องจากตัวนี้เป็นรุ่นมาตรฐานที่ทำออกมาและทดลองขายใน home pro ในช่วงแรง...ราคาก็มาอยู่ที่ 2 กลาง ๆ ครับ แต่เนื่องจากงาน โฮมโปรเอ็กโปร นั้นทำให้ตัวนี้แจ้งเกิดมา และสร้างประวัตการขายที่นอน 2 หมื่นกว่าที่ถ้าพี่พี่ท่านไหนลองนั่งแล้วเทียบในเร้นราคา 2 หมื่นกว่า ๆ แล้วได้มาลองนอนตัว  POSTURE SOFT   ตัวนี้แล้วนั้น รุ่นอื่น ๆ ไม่ต้องขายเลยครับ โดนตีตามทั้งหมด ทั้งหน้าตาและสเป็ก เลยทำให้ home pro ล็อคตัวนี้ไว้เลยยครับ กระดิกไปไหนไม่ได้ พอล็อกไว้แล้วก็เริ่มกรรมวิธีขึ้นราคาครับ ตอนนี้ปาไป 2 ปลายถึง 3 ต้น ๆ และครับ ซึ่งเป็นอะไรที่ผมมองและก็ยิ่มครับ เพราะเดาไว้แล้วต้อนมาไม้นี้.....แต่พี่พี่ก็อย่าไปคิดมากครับ มันเป็นเกมการตลาดซึ่งหน้าที่ใครก็หน้าที่มันไป ผมเองก็ไปแง่ว ๆ กับพี่พี่ เจ้ เจ้ slumberland บ่อยครับจนเค้ารำคาญมั้งครับ เลยออกที่นอนที่เป็นสเป็กเดียวกันออกมาเลยคือรุ่น Premio deluxe ครับ ซึ่งทีแรกหน้าตามาแบบเดียวกันเลยครับเป็นที่นอนก้อนดำดำ(มีปัญหาเปลื่ยนผ้าปูมากครับ เพราะทีนอนสีดำผ้าปูที่นอนสีอ่อนใช้ไม่ได้เลยครับ) ผมเองก็คันครับ เลยขอลงมือปรับสเป็กร่วมกับพี่พี่ที่เป็นฝายผลิตของ slumberland ครับ เลยออกมาเป็นตัว Premio deluxe ตัวไมเนอร์เช้นครับ สิ่งที่ต่างจาก POSTURE SOFT  คือ ตัวผ้าเป็นสีขาวครับ ไม่ใช่ดีดำ และเน้นตัวผ้าที่มีความพูความนุ่มแบบขนแกะหรือขนมิ้งครับโดนเป็นตัวผ้าสังเคราะที่เน้นการทอที่เครือบสารกันไรฝุ่นและที่สำคัญตัว Premio deluxe นั้นเครือบสานกันฝุ่นจับเพื่อไม่ให้เวลาใช้ไปนาน ๆ ฝุ่นฟุ้งตัวที่นอนครับ และขนของตัวที่นอนก็ฟูและพลิ้วเป็นธรรมชาตอยู่ตลอดเวลาครับ


 
 
 
 


 ไม่เหมือนตัว POSTURE SOFT ใช้ไปและผ้าฟีบ โดนน้ำไปทีผมน้ำตาจะไหลครับ เป็นดวงเลย น้ำจากผมนะครับที่ยังเช็ดไม่แห้ง พี่นึงง่าย ๆ ผ้าเหมือน ผ้าสักหลาดขน ๆ  โดนน้ำ อะครับ โดนดุชุดใหญ่เลยครับ แต่พอมาเป็นตัว Premio deluxe เลยขอร้องพี่เค้าเครือบน้ำยากัยน้ำไว้บ้าง ๆ ให้ด้วยครับ( แต่ก็อย่าให้ถึงขนาดน้ำหกเป็นแก้วนะครับ แบบนี้ที่นอนอะไรก็เสียครับ) และตัวผิวหน้าของตัวยางพาราก็เพื่มให้มีความบริสุดมากขึ้นเพื่อเน้นให้ไวต่อแรกกดทับครับและให้ยาง 1 นิ้วชั้นบนมีความนุ่มแต่ยาง 1 นิ้วชั้นล่างมีความหนืดที่สูงครับเลยทำให้เวลานอนลงไปแล้วนั้นให้เน้นมีความกระชับครับ ฟิวที่นอนตัวนี้ออกแบบมาให้อยู่ในเกณแน่นนุ่มนะครับ แน้นการห่อตัวนิด ๆ ซึ่งถือว่า เป็นอีก 1ฟิวที่ได้รับความนิยมมากครับ ผมเองได้ร่วมมือกับพี่พี่ทาง slumberland ให้ทำตัวนี้ออกมาเพื่อรองรับพี่พี่ที่ชอบที่นอนฟิวแน่นนิดนึงนะครับแต่ไม่แข็ง เน้นมากสำหรับพี่มีน้ำหนังเจ้าเนื้อนิดนิงจนไปถึงพี่ที่น้ำหนักแบบ เฮฟวี่ เวด เลยนะครับ ซึ่งที่นอนตัวนี้ได้ผ่านเครื่องเทสหลายทีมากครับ และผมเองก็นอนเทสเองอยู่นานมาก กว่าจะเสร็จสมบูรณ์มาได้ก็นานมากครับ แต่ก็ภูมิใจครับ ที่นอนตัวนี้นั้นทำออกมาเพื่อเน้นการนอนที่เป็นแบบ Correst Orthopedic เท่านั้นนะครับ ย้ำนะครับตัวนี้เน้นการนอนแบบ Correst Orthopedic เท่านั้นจริง ๆ นะครับ และเป็นที่นอนสุขภาพจริง ๆ ซึ่งพี่พี่ดูจากรูปด้านล่างได้เลยครับ


 
 
 

บอกเลยครับ รู้สึกคนนอน อืดดดดมาก ครับ

หลังอยู่ในระนาบแนวตรงมากครับ ซึ่งผมเองนั้นหนัก 75โดยประมาณ สูง 173 ครับ พี่ดูที่นอนซิครับจัดรับเบียบหลังได้ดีมากครับผมเองเป็นคนมีก้นที่งอลพอตัวอยู่ครับ แต่ที่นอนก็รับตามรูปก้นผมและเอนมาดันหลังได้สมูทมากเลยครับ ไม่มีการดึง หรือการเป็นแอ่นให้เห็นเลยครับ และพี่ลองดูนะครับตัวและหลังผมจะอยู่ในระนาบแนวตรงนะครับไม่มีย่อยหรือตกเป็นท้องช้างเลยครับ ซึ่งจัวนี้เน้นการนอนที่เป็นแบยสุขภาพครับ Correst Orthopedic เท่านั้น ส่วนพี่พี่ท่านไหนชอบแบบ too soft หรือ too firm ตรงนี้ต้องเรียนพี่ตามตรงครับ ต้องดูเป็นตัวอื่นนะครับ แต่ตัวนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่พี่สามารถเอามาเป็นเบสพื้นฐานในการเลือกที่นอนได้เลยนะครับผม หรือถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ลองมานอนเทสดูครับ ผมเชื่อว่าฟิวการนอนและฟิวที่นอนของตัวนี้น่าจะทำอะไรให้พี่พี่สามารถเลือกที่นอนที่ตัวเองชอบได้ง่ายขึ้นครับ และตัว Premio deluxe นั้นเป็นรุ่นมาตรฐานะครับ มีขายทุกร้านที่ หือถ้าพี่หาไม่เจอจริง ๆ พี่เทียบฟิวกับตัว POSTURE SOFT ได้เลยนะครับผม แต่ที่สำคัญเมื่อเอา Premio deluxe มาเทียบกับ POSTURE SOFT แล้วนั้น ความคุ้มค่าทางด้านราคาเมื่อเทียบกับสเป็ก POSTURE SOFT สู้ตัว  Premio deluxe ไม่ได้เลยครับ เพราะราคา  Premio deluxe เป็นราคาแบบรุ่นมาตรฐานซึ่งมีการไฟท์ราคากันเยอะมากครับเลยทำให่ราคาถูกกว่า POSTURE SOFT อยู่หลายพันบาทมากเลยครับผม 

 
 
  -----------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
 
 

Omazz / Lotus / Dunlopillo 


ที่ผมลง 3 ยี่ห้อนี้ทีเดียวเลย เพราะพี่ครับ ตอนนี้ถ้านับความใหญ่ที่สุด ณ ตอนนี้ในโรงงานที่นอนที่ยี่ห้อเกรด A หรือยี่ห้อดัง ๆ ที่เป็นยี่ห้อมาตรฐานที่ได้รับความไว้วางใจที่ทางห้างต่าง ๆ เลือกมาวาง นั้น ผมเชื่อว่า Omazz / Lotus / Dunlopillo 3 ยี่ห้อนี้ พี่พี่อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา ซึ่ง แน่นอนครับ อย่างที่พี่พี่หลาย ๆ คนทราบ 3 ยี่ห้อนี้ เจ้าของคนเดียวกันครับ ซึ่งมี ที่นอนโลตัส Lotus เป็นแกนนำครับ

 

Omazz

 
 
 
 
 
 

 


อย่าที่พี่เห็นตามคริปเลยครับ ความปราณีต ยี่ห้อนี้ถือว่ามีความใส่ใจและบันจงมากครับ ในการทำที่นอนออกมาในแต่ละรุ่นครับ ซึ่งยี่ห้อ โอมาส นั้น เป็นยี่ห้อที่มาจากประเทศ usa ที่รัฐ คอรเน็กติกัส นะครับ(ผมเองไปดูการผลิตมา กะ ตาเลยครับ ) ซึ่งยี่ห้อนี้จะเน้นและเก่งมากทางด้านที่นอนที่เป็นสายยางพาราครับ ซึ่งเป็นเพียงยี่ห้อเดียวครับที่ถือว่ามีแบบฉบับการทำยางพาราที่ถือว่าเป็นขั้นเทพ...และไม่มียี่ห้อไหนเลียนแบบได้ครับ ...โดยที่ผมบอกว่าขั้นเทพคือ .... ส่วนใหญ่ยางพาราในบ้านเรา อย่างยี่ห้อ otop ในบ้านเรายางพารานั้นก็ จะแข็ง ร้อน หนัก และกลิ่นเหม็น แต่ยี้ห้อ omazz นั้น เรียนพี่ตามตรงครับ สิ่งที่ผมบอกว่าขั้นต้นเมื่อกี้จะไม่เป็นเลยครับ คือ ยางพารามีการอ่อนตัว ยืดหยุ่นได้ดู นุ่มนวลชวนฝันมากครับ และตัวยางพารามีรูระบายอากาศที่เยอะมาก มากกว่า ยางพาราในบ้านเรา ถึง 3-4 เท่าทำให้อากาศไม่ร้อน และน้ำหนักเบาครับ เพราะเป็นตัวยางพารา บริสุทธิ์ ฉีดขึ้นรูป และฟอกด้วยน้ำครับ ไม่ใช่ยางพาราหล่อโดยใช้น้ำส้มสายชูแบบบ้านเราครับซึ่งยี่ห้อ otop ดัง ๆ บ้านเราชอบใช้ครับ ... พวกนี้กลิ่นแรงมากครับ แต่โอมาส ไม่มีและไม่เจอครับ และนี่แหละครับคือจุดเด่นที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักที่
Omazz มี แต่ยี่ห้ออื่นไม่ในครับ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าพี่เน้นที่นอนฟิวที่นอนแบบยางพาราแท้ ๆ เต็ม ๆ ผมเชื่อเลยครับว่าถ้าพี่ได้ลองโอมาสไปแล้วพี่พี่จะติดใจครับผม งั้นผมขอลงลึกในรายระเอียดเลยนะครับ โดย Omazz นั้นจะเป็นเป็นอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ กลุ่ม Seasonspring และ Season Talatech ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า ....แบ่งเป็นกลุ่มยางพาราทั้งก้อน และสปริงเสริมยางครับ ซึ่งการนอนนั้นและข้อดีข้อเด่นนั้นผมเองขะขออธิบายแยกดังนี้นะครับ

 


Season Talatech


 
 
 
 
 
 


Season นี้แน่นอนว่าต้องเป็นที่นอนที่ไม่มีสปริงแน่นอนครับ ซึ่ง ใน Season นี้จะแยกและแบ่งออกไปเป็น 2 อย่างครับ คือ

Full Talatech และ Mix Talatech ครับ ซึ่งต้องบอกพี่ก่อนนะครับ โอมาส นั้นจะมียางพารา 2 จำพวกครับ ซึ่งจะใช้ในการทำที่นอนครับ คืออย่างแรก คือยางพาราที่เป็นตัว ยางทาราเล ครับ ซึ่งยางตัวนี้ข้อดีคือ....เวลาพี่นอนลงไปแล้วนั้นจะได้ฟิวการนอนที่นุ่ม ถึงนุ่มมาก ห่อตัวนิด ๆ แต่ไม่จมตัวครับ ซึ่งขบวนการทำยางพาราชนิดนี้คือ ใช้น้ำยางพารา 100% ผสมกับนำมันเมล็ดดอกทานตะวันครับ เลยทำให้ยางพารานั้นบริสุทธ์ และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายใดใด ครับพูดง่าย ๆ ว่านอนลงไปแล้วมั่นใจได้ครับว่าไม่กอเกิดสารตกค้างครับ ซึ่งพอได้น้ำยางพารามาแล่วนั้น ก็เอาไปฉีดในบล็อก เพื่อกำหนดค่าความหนาแน่นของตัวยางพารา โดย Omazz นั้นให้ใช้ค่าวัดความหนาแน่นเป็นค่า lid นะครับ ซึ่งพอกำหนดได้แล้วก็ เครื่องจะทำการฉีดน้ำยางลงไปในที่บล็อก....และเอาไปอบให้ยางพาราอยู่ตัวด้วยความรุ่นที่สูง และนำไปแช่เย็นทันทีครับ และฟอกด้วยน้ำอีกทีครับ เพื่อให้ยางพารานั้นคงรูปและคงตัวและเพื่อให้ยางพาราแต่ละก้อนนั้นมีรูเซลระบายอากาศให้ทั่ว ๆ ที่นอนครับ ซึ่งจะเป็นผลดีมากกับการนอนคือนอนลงไปแล้วไม่ร้อนครับ แต่ข้อดีของยางชนิดนี้คือ ยางพาราที่ทำออกมานั้น จะได้ยาพาราชนิดแบบนุ่มอย่างเดียวครับ ไม่สามารถทำยางพาราแน่นได้ ถึงแม้ทำได้แต่ก็แพงมากครับ เพราะต้องใช้น้ำยางพาราที่เยอะกว่าปริมาณมาตรฐาน และน้ำยางพาราต้องค้นกว่ามาตรฐานเยอะเลยครับ....ส่วนอีก1 ชนิดของยางพาราที่เป็นจุดชูโรงและถือว่าเป็นตัวที่ทำให้โอมาสสร้างชื่อเลยคือตัวยางพาราที่เป็นแบบ ตัว ออแกนนิกโฟม ครับ ซึ่งตัวนี้ขั้นตอนการทำทุกอย่างเป็นแบบเดียวกับทางยางทาราเล ข้างบนครับ ครับ...แต่ตัวน้ำยางพารานั้นจะใช้ตัวน้ำมันถั่วเหลืองมาผสมแทนครับ ซึ่งน้ำมันถั่วเหลืองนั้นจะช่วยให้ยางจับตัวได้แน่นมากกว่าตัวน้ำมันดอกทานตะวันครับ .... ซึ่งเป็นที่นิยมมากครับ เพราะทำให้ฟิวที่นอนนั้นแน่นขึ้นแล้วไม่ว่า ราคาค่าตัวในความแน่นของตัวที่นอน เมื่อเทียบกับยางที่เป็นตัวยางทาราเลทั้งก้อน พี่จ่ายถูกกว่ากันเป็นครึ่ง ๆ เลยครับ และฟิวลิ่งก็ไม่แพ้ตัวที่นอนที่เป็ยางทาราเลทั้งก้อนเลยครับ ในฟิวที่นอนแน่น ๆ นะครับ หรือนุ่มแน่น แต่ถ้าเป็นตัวที่นอนนุ่ม...แน่นอนครับสู้ ตัวยาง ทาราเรทั้งก้อนไม่ได้ครับผม ซึ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ พี่ครับ .... เป็นการทำในโรงงานปิดครับ และเครื่องจักรก็เป็นเครื่องจักปิด ทำงานโดยคอมพิ้วเตอร์ ให้คอมพิ้วเตอร์ควบคุมมาตรฐานครับ ซึ่งทำให้ได้ยางพาราที่ นิ่ง เสถียนมากครับ ซึ่งพี่พี่สามารถมั่นใจในมาตรฐานการผลิตของยี่ห้อนี้ได้เลยครับ บอกตามตรง เทพมาก ๆ ครับ

ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ

 

.......................................................


Mix Talatech

 

ในกลุ่มของทาราเลมิกนี้ ผมเองบอกพี่ตามตรงเลยครับว่า เป็น กลุ่มที่สร้างชื่อให้กับทางโอมาสมากที่สุดครับ ในเร้นราคา หลักหมื่นไม่ถึงแสนครับครับ ซึ่งแน่นอนว่าพี่ครับ ตรงนี้พี่ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับ ว่าที่นอนที่เป็นยางพาราทั้งก้อน ที่เป็นยางพาราแท้ ๆ แบบโอมาสแบบนี้ไม่ว่ายี่ห้อไหนนั้นราคาก็ 4-5 หมื่นขึ้นนะครับ ซึ่งเป็นอะไรที่ถือว่าราคาปกตินะครับ เพราะไม่ว่ายี่ห้อไหน ๆ ก็ราคาตามนี้ครับ...ซึ่งตัวที่ผมจะแนะนำอยู่ในกลุ่ม Mix Talatech ในรุ่นนี้จะใช่ตัวยางพารา แบบทาราเร แบบนุ่ม ผมผสมกับยาง ออแกนนิค แบบแน่น ครับ ตามสัดส่วนที่ทางบริษัทแม่ทางอเมริกาเค้ากำหนดมาให้ ซึ่งฟิวการนอนจะออกเป็นแบบนุ่มแน่นครับและกระชับหลังมากครับ ไม่เด่งแต่เน้นนอนลงไปที่นอนบล็อกตามหลังเลยครับและเรื่องตามข้อต่อต่าง ๆ ... ช่วยลดแรงกดทับได้ดีมากครับ โดนใช้ยางพารา 2 ชั้นคือ คือตัว Farroso (โฮมโปร) Fermiss (เซ็นทรั่น) Ferah(เดอร์มอ) ซึ่ง 3 รุ่นนี้เป็นตัวเดียวกันนะครับ แต่ถือว่าเป็นตัวที่ขายดีมากครับเลยทำให้ต้องแบ่งชื่อออกไปเพื่อให้ลูกค้าเกิดความสับสน เช็คราคาได้ยากครับ แต่จริง ๆ แล้วถ้าผมแนะนำจริง ๆ ....ชื่อไหนก็ได้ครับ เหมือนกันทุกอย่างต่างที่ผ้าชื่อบอกรุ่นเท่านั้นครับ.... ( เป็นตัวที่ถือว่าเป็นตัว ที่นอนที่นอนลงไปแล้ว ที่นอนจะจัดระบบหลังของเราให้อยู่ในจุด Correst Orthopedic Position เลยครับ ) ซึ่งรุ่นนี้เป็นที่กังขามากว่าเป็นยางจริงหรือยางแท้ ซึ่งพี่ครับ ไม่ต้องห่วงผมเปิดและกรีดที่นอนให้ดูนะครับเรื่องสเป็กคงไม่ต้องบอกอะไรด้วยคำพูดมาก พี่ดู ด้วยตาและใช้ วิจารณญาณ ในการรับชมครับผม

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 



Farroso (โฮมโปร) Fermiss (เซ็นทรั่น) Ferah(เฟอร์มอ) นั้นเป็นสปริงที่ออกนุ่มนะครับ

 แต่ถ้าพี่ท่านไหนชอบแน่น ๆต้อง Falcohn เลยครับ

ตามรูปเลยครับ

 
 
 
 
 
 

 ตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นทีแจ้งเกิดมากครับ เหมาะสำหรับพี่ที่ชอบที่นอนแน่น แต่ไม่กระด้างครับ ที่นอนตัวนี้รองรับพี่พี่ที่มีน้ำหนัก ตั้งแต่ 80 จนถึง 100 กก up ครับ ซึ่งเน้นรูปแบบการนอนที่อยู่ในรูปของ Correst Orthopedic Position มากที่สุดในรุ่นราคาที่นอน 5-6 หมื่นครับ ผมเองกล้าพูดได้เต็มปากครับ จากประสบการณ์ผมนะครับ ตัวนี้ถือว่าเป็นอีก 1 ตัวที่ดีมาก ๆ ครับ แต่ต่างจาก Farroso (โฮมโปร) Fermiss (เซ็นทรั่น) Ferah(เดอร์มอ) คือ Falcohn ตัวนี้เป็นยางพารา 3 ชั้นนะครับให้มิติในการนอนที่ถือว่าดีมากครับ ไม่อยากจะเชื่อเลยครับ ที่นอนที่ออกแน่น แต่เวลานอนลงไปแล้วที่นอนโคล้งกระชับตามหลังได้ถือว่ามีมากครับ และเวลานอนลงไปแล้ว เรื่องการพลิกตัว เอาเป็นว่าคนข้าง ๆ ไม่รู้สึกเลยครับ... ก็ซึ่งรุ่นที่ผมบอกไป 2 รุ่นนี้ถือว่าเป็น...รุ่นที่ดังมากและเป็นตัว ชูโรงของทางโอมาสมากนะครับ เพราะราคาไม่แพง สมเหตุสมผลมากครับ ไม่โอเวอร์ครับ .... ซึ่งตรงนี้ผมแนะนำให้พี่ลองมาเทสนะครับก่อนตัดสินใจ และพี่สามารถเอา 2 รุ่นนี้ ที่ผมแนะนำไป เป็นตัวเบสพื้นฐานในการตัดสินใจได้เลยครับ ซึ่งถ้าในเร้นราคา 4-6 หมื่น 2 รุ่นนี้ถือว่า ดีทั้งสเป็กและราคามากครับ 

 
 
 
 .......................................................
 
 
 

 Full Talatech

ที่สุดของที่นอน นุ่มสเป็กเทพครับ

  

ที่ตัว Mix Talatech จะเป็นรุ่นที่ทำที่นอนออกไปทางแน่น ถึงแน่นมาก ครับ แต่ถ้าพี่ดูเป็นตัว Full Talatech นั้นที่นอนที่ทำออกมาจะออกไปทางนุ่มครับ ซึ่งในที่สุดของตัว โอมาสในรุ่น Full Talatech ที่ถือว่าเป็นรุ่นเด่น รุ่นดัง ที่ได้ฉายยาว่า ที่นอน ดูดวิญญาณ เลยก็ว่าได้ครับ เพราะที่นอนตัวนี้ เป็นที่นอนที่มีความนุ่มที่ถือว่าเยอะมาก พี่นอนลงไปแล้วนั้นที่นอนจะถือว่าให้การรองรับหลังได้เป็นอย่างดีครับ คือ ที่นอนเวลานอนลงไปแล้วนั้นนุ่มและกระชับมากครับ ซึ่งตัวที่นอนตัวนี้เป็นตัวรุ่นสูงสุดของโอมาสครับ ซึ่งประกอบไปด้วยยางพารา 5 ชั้นครับ โดยแบ่งเป็น2 ส่วนครับ ซึ่งแบ่งเป็นช่วงเบส และในส่วนของชั้นที่รองรับและเก็บรายระเอียดครับ ซึ่งเวลาพี่พี่ท่านไหนได้ลองนอนไปแล้วจะทราบทันทีครับว่าเวลานอนลงไปแล้วที่นอนจะมีมิติในการรองรับได้ดีมากครับ....นุ่ม กระชับ และไวต่อแรงกดทับมากครับ....เพราะที่นอนตัวนี้ทำออกมาเพื่อเน้นสำหรับพี่ที่ชอบนอนที่นอนนุ่มแต่กลัวว่าจะมีอาการปวดหลังซึ่งตัวที่นอนตัวนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมากครับผม ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะ ที่นอนตัวนี้ใช้ยางพาราถึง 5 ชั้นครับ....ซึ่งจะเรียบลำดับไปตั้งแต่ชั้นที่นุ่มที่สุดไปยังชั้นที่แน่นที่สุดครับ...ซึ่งฟิวของเบสตัวล่างของตัวที่นอนจะเน้นดันหลังให้อยู่ในระนาบแนวตรงครับและช่วยในการพยุงให้ตัวไม่ให้จมลงตัวที่นอนครับ....แต่ในทางกลับกัน ผิวบนที่เป็นยางพาราที่หนา 4 นิ้วนั้นจะช่วยให้ที่นอนนั้นนุ่ม และกระชับให้ที่นอนแนบรับหลังมากครับ ซึ่งตัวนี้ ถือว่าเป็นที่นอนตัวรุ่นนุ่มที่เน้นการจัดรูปแบบร่างกายของผู้นอนให้อยู่ในจุดการนอนแบบ Correst Orthopedic Position ซึ่งในระดับที่นอนระดับเดียวกันที่ราคา แสน หรือแสนกว่า และเป็นฟิวการนอนแบบสไตล์ที่นอนนุ่ม พี่ครับผมเองกล้าบอกได้เลยครับว่า ตัวนี้ดีที่สุดครับ ละอีก 1 เรื่องรุ่นนี้ต่างจากที่นอนรุ่นอื่น ๆ คือ เวลาพลิกตัวพี่พี่ผู้นอนจะรู้สึกถึงความสมูทในการพลิกตัว ไม่หนืดตัวซึ่งที่นอนยิ่งนุ่มมาก ๆ จะเป็นครับ คือพลิกตัวยากหนืดตัวมากเกินไปเลยทำให้เวลานอนกับพี่พี่ที่เปลี่ยนถ้านอนบ่อย ๆ อาจจะรู้สึกเหนื่อยเวลานอน หรือต้องตื่นตลอดคืนเพื่อมาเปลี่ยนท่านอน แต่ถ้าพี่ดูเป็นตัว โอมาสตัวนี้แล้วนั้น พี่ครับบอกเลย สบายมาครับผม ซึ่งผมเองบอก สรรพคุณ มามากแบบนี้แล้ว พี่พี่หลาย ๆ ท่านถ้าเป็นแฟนโอมาสอาจจะนึงออกทันที แต่ถ้าพี่ท่านไหนนึกไม่ออกผมบอกให้ครับ รุ่นที่เป็นที่นอน ดูดวิญญาณ

 

 
 
 
 

 
 


รุ่นนี้คือรุ่นตัว Fairmont ซึ่งผมว่าน่าจะเป็นตัวรุ่นที่ดีที่สุดของโอมาสและครับซึ่งผมเองเทียบจากราคา และสเป็คนะครับ และผมเองก็นอนรุ่นนี้อยู่ครับ ในบ้านหลัก ที่เอกชัย ครับ ซึ่งบอกพี่เลยครับไม่ผิดหวังจริง ๆ ครับ ส่วนบ้านที่ทำงาน ก็นะครับ เปลี่ยนไปเรื่อยครับ ลองไปเรื่อย ๆ เพราะต้องเทศสเป็คและเขียนสเป็คส่งเค้าครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วในใจผม ตัว Fairmont ก็ถือว่าสุดและเทพสุดและนะครับ แต่ถ้าเทียบจริง ๆ ถ้าพี่ท่านไหนเน้นแบบ นุ่มมาก ๆ และเน้นกระชับมาก ๆ ...พี่ต้องดูเป็นตัว Grand Fairmont ซึ่งฟิวอาจจะต่างกันไม่เยอะสำหรับผม แต่เรื่องความกระชับนั้นก็มีมากกว่า แต่แน่นอนครับ ราคาก็มีมากกว่า ซึ่งผมเองมองแล้วไม่ต่างเลยเลือก Fairmont มานอนแทนครับ แต่ถ้าพี่....คิดว่าเพิ่มไหวในสัดส่วนอีก 1-2 หมื่น และฟิวโดนใจเลย ตัว Grand Fairmont ก็เป็นอีก1 ตัวที่ถือว่าดีที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งดีกว่าตัว Fairmont ครับ และอีกอย่าง 1 ฟิวการนอน Grand Fairmont และตัว  Fairmont นั้นจะต่างกันแค่ 1 ชั้นนะครับ อชั้นที่เป็นตัวยางทรงรังไข่ครับ ซึ่งเทียบจริง ๆ มันนุ่มกว่ากันอยู่ 10-15 % เองนะครับ นุ่มกว่ากันไม่เยอะมากครับผมม

 

 .......................................................



 

 Seasonspring

 
 
 
 
 

จริงอยู่นะครับ ที่โอมาสนั้นเด่นมากเรื่องยางพารา.....ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยี่ที่ถือว่าเป็นขั้นสูงของเค้านะครับ .... แต่ถ้าพี่ดูแบบลุก ๆ จริง ๆ ตัวที่นอนสปริงของโอมาสนั้นก็มิได้ด้อยหรือน้อยหน้านะครับ เพราะ...ในช่วง 3-4 ปีหลังมานี้ โอมาสนั้นได้ใช้เงินทุนในการวิจัยระบบสปริงให้มีการพัฒนามากขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ ซึ่งถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ นั้นแล้วนั้น ....เค้าได้หยุดการพัฒนาไปนานและครับ ซึ่งตอนที่โอมาสนั้นเค้าเริ่มการพัฒนาระบบสปริงนั้น....เค้าได้ตั้งเป้าว่าจะทำสปริงออกมาให้ดีและเทียบเท่า สปริงของ sealy ครับ และต้องดีกว่า sealy ให้ได้ ซึ่งตอนนี้ทาง โอมาสนั้นทำออกมาก็ถือว่าขี่ ๆ เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งเนื่องจาก โอมาสนั้นต้นสังกัดมาจากประเทศเดียวกับทางบริษัท sealy เลยทำให้การทำที่นอนออกมานั้นสตายเดียวกันครับ คือที่นอนจะออกนุ่ม ๆ แน่น ๆ ครับ ..... แต่ทางโอมาสจะเป็นต่อมากกว่าคือในส่วนของตัวยางพาราครับ ซึ่งพี่พี่น่าจะทราบอยู่แล้วว่าทางโอมาสเก่งมาก ซึ่งทางโอมาสนั้นเค้าก็เอายางพาราของเค้ามาประกบกับที่นอนสปริงของเค้าทุกรุ่นนะครับ โดย....ทางโอมาสมีนโยบายว่าที่นอนสปริงของทางโอมาสนั้นจะต้องเป็นที่นอนสปริงที่ เป็นที่นอนสปริงเสริมยางพาราจริง ๆ คือ ที่นอนปริงและก็ยางพาราเลยครับ ..... แต่ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น ๆ ต้องบอกพี่ตามตรงครับว่า สปริงมาและผิวหน้าเค้าจะเน้น พวกใยสังเคราะ ฟองน้ำ และยางพาราบาง ๆครับ แต่ท่างโอมาสนั้นสปริงและยางพาราเลยครับ ซึ่งจะใช้ความหนามากกว่าที่นอน ธรรมดา ถึง 2-3 เท่าครับ ซึ่งข้อดีเลยคือเวลานอนลงไปแล้วนั้น....พี่ที่จะช่วยในการรับหลัง และยืดหยุ่นได้ดีมากครับ และตัวยางจะเน้นในการรองรับและลกแรงสั่นสะเทือนของคนข้าง ๆ ได้มีมากครับผมม ซึ่งทางโอมาสนั้นจะแบ่งสปริงเป็น 2 ประเภทครับ คือ สปริง Super Bonnel Coil และระบบสปริง Individually Pocketed Coil plus ซึ่งเป็นระบบสปิงที่เป็นตัวสร้างชื่อของเค้าเลยก็ว่าได้ครับผม  ซึ่ง Super Bonnel Coil นั้นเป็นสปริงรุ่นล่าสุดของทาง โอมาสครับ ที่ทำออกมาและพัฒนาออกมาดีมากครับ  ซึ่งสปริงตัวนี้จะเป็นสปริงที่ต่างจากของเดิมที่เป็นระบบสปริง   Bonnel เดิมคือ เรื่องของเกรี่ยวที่นอนสปิงที่เน้นค่าความยืดหยุ่นที่ตัวหัวสปริงให้มีความสูง และตัวแก่นสปริงให้มีค่าความหนาแน่นที่สูงเพื่อให้สปริงนั้นรองรับน้ำหนักในแนวตรงได้ดีและสเถียนมากขึ้นครับ และจะมีการเน้นเกรี่ยวสปริงเพื่มขึ้นอีก2-3 เกรี่ยวเพื่อเพื่อความสปริงัวให้มีมากกว่าเดิม 2-3 เท่า เพื่อให้การรองรับที่ถือว่า นุ่ม เด่งนิด ๆ ฟิวแบบเดียวกับทางโรงแรม 5 ด้าวครับ ซึ่งถือว่าการทำแบบนี้ตอบโจทย์ได้ดีมากครับ เพราะฟิวสปริงการนอนนั้นเทียบเคียง สปริงแบบเดียวกับทาง sealy ได้เลยครับ ซึ่งฟิวการนอนเหมือนมากครับ ส่วนระบบ Individually Pocketed Coil plus ตัวนี้เป็นตัวสปริงขั้นสูงสุดของโทงโอมาสครับ ซึ่งจะเน้นทำสปริงออกมานุ่ม....เน้นการรองรับที่ห่อตัว จมตัว แต่ไม่ปวดหลังเพราะเพราะระบบสปริงนั้นเน้นการทำงานที่ถือว่าไวต่อแรงกดและระเอียดมากครับ ซึ่งถ้าแนะนำจริง ๆ พี่พี่ท่านไหนชอบที่นอนนุ่ม ห่อตัว สปริงตัวนี้ถือว่าผ่านเลยครับ ซึ่งรถบบสปริงจะเป็นแบบเดียวกับทางสปริง Super Bonnel นะครับ แต่สปริงตัว Individually Pocketed Coil plus จะมีความไวต่อแรงกดมากกว่า เพราะหัวสปริงนั้นมีการ โมดิฟาย ค่าเหล็กมาครับให้มีความเหนือว แน้นคือตัว และยืดหยุ่นได้สูงมากครับ เลยทำให้สปริงตัวนี้มีความยืดหยุ่นมากกว่า Super Bonnel นะครับ และบวกกับตัวสปริง Individually Pocketed Coil plus นั้นเป็นสปริงระบบแบบแยกอิสรด้วยครับ ซึ่งเลยทำให้ การนอนนั้นถือว่าจะยุบเฉพาะจุดครับ และในการพลิดตัวคนข้าง ๆ ก็ไม่รู้สึกครับ ซึ่งมีความสเถียนมากครับ

 


ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ

 

 Omazz รุ่น Fiatta

 
 
 

 
 
 


ถ้าใน Super Bonnel Coil คงจะหนีตัวนี้ไปไม่พ้นนะครับ คือรุ่น Fiatta คับ ตัวนี้ถือว่าเป็นที่นอนที่อยู่ในสตายแบบมิเดี่ยมซึ่งการนอนและการนั่งถือว่าการรองรับได้ดีมากครับ .... ไม่นุ่มไปและไม่แน่นไป แต่ตัวนี้จะเน้นผิวหน้าที่เสริมตัวยางพาราที่หนาครับ ซึ่วทำให้ผิวหนาบนที่นอนจะนุ่มแต่ไม่ห่อตัวนะครับ ซึ่งตัวนี้ถือว่าเก็บรายระเอียดการนอนในช่วงของหลังและ...สะโพกต้นขาได้ถือว่าดีมากครับ ซึ่งตัวนี้ และที่สำคัญโอมาสนั้นเป็นบริษัทที่ดังมาจากพวกชุดเครื่องนอนครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวหมอนนอน...ผ่ารอง ผ้าปู ผ้านวม อะไรแบบนี้ครับ ... ซึ่งโอมาสนั้นเค้ามีนโยบายที่ว่า ซื้อที่นอนเค้าแล้วเค้าก็อยากจะแถมเครื่องนอนที่ดีเพื่อการนอนที่ดีอะไรแบบนี้ครับ เลยทำให้โอมานนั้นเค้าเอาเครื่องนอนชุดขายหน้าร้านมาแถมให้ครับ ซึ่งมีความคุ้มค่ามากครับ หมอนราคาก็ปาไป 3750 ผ้าปูและผ้านวมอีกชุดละ 6-7 พัน ซึ่ง ถ้าพี่เน้นแบบว่าซื้อที่นอนและเน้นความครบและความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวที่นอนและเครื่องนอน ผมว่าพี่ดูเป็นตัว Fiatta ถือว่าคุ้มค่ามากครับ ในราคาที่นอนไม่เกิน 30000 หรือ  หมื่นปลาย ๆ พี่ครับ ตัวนี้ถือว่าเป็นตัวที่ดีมาก ๆ ครับ แล้วยิ่งถ้าพี่เป็นแฟนพันแท้ซีลี่แล้วด้วยนั้นผมเองบอกได้เลยครับว่าโอมาสทำมาไม่ได้แพ้นะครับ และในราคา 2-3 หมื่น พี่ครับผมเองดูจากสเป็กและความคุ้มค่า พี่ครับ บอกตามตรง โอมาสเด่นกว่าซีลี่นะครับ ถ้าเทียบ ราคาต่อสเป็กที่นอนนะครับ แต่ถ้าเน้นยี่ห้อ หรือความเป็น brand loyalty ตรงนี้ผมเองคงบอกพี่ว่า พี่เลือกได้เลยครับ ตามความสบายใจครับผมมม

 
 
 
 

Omazz รุ่น  Florian Hill

 
 
 
 
 
 

แต่ถ้าพี่พี่ท่านไหนชอบแบบนุ่ม ๆ แบบสปริง Individually Pocketed Coil plus พี่ครับ ต้องตัวนี้เลยครับ Florian Hill ตัวนี้ผมเองคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ พี่นิกฟิวที่นอนในเทพนิยาย ที่นอนที่ซินโดเรร่านอน อะไรแบบนี้ครับ ที่นอนลงไปแล้วที่นอนจะห่อ ๆ ตัวอุ่มตัวรับตัวครับ แต่เน้นเลยนะครับ ถึงแม้จะนุ่มแต่ไม่ปวดหลังนะครับ ซึ่งการนอนการนั่งของที่นอนตัวนี้เน้นความสบายตัวนะครับ ลดแรงกดตามจุดต่าง ๆ ให้นอนลงไปแล้วนั้นช่วงข้อต่อต่าง ๆ จะไม่มีอาการเจ็บ เหน็บชา หรือเมื่อยครับ ซึ่งถือว่าเป็นตัวที่นอนที่ถือว่าเป็นตัวขั้นเทพของที่นอนฟิวแบบนุ่ม ๆ ครับ ซึ่งที่นอนตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่เป็นรุ่นที่ copy ฟิวการนอน ตัว Grand Fairmont หรือ  Fairmont มาเลยครับ แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้เหมือนกัน 100% แต่พี่ครับ ต่างก็แค่ความนิ่งความสเถียนเวลานอนครับ ซึ่งการนอนอาจจะออกเด่ง ๆ กว่า ตัวที่เป็นยางพารานิดนึงครับแต่ฟิวโดยรวมดีมากครับ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ ซึ่งถ้าในงบประมาณ 4-5-6 หมื่น ผมเชื่อว่า ไม่มีที่นอนรุ่นไหนยี่ห้อไหนทำฟิวการนอนได้เท่าตัวนี้ครับ....และจากสิ่งที่ผมได้ลองนอนเองจริง ๆ ที่นอนตัวนี้จะจักรูปแบบร่างการของพี่พี่ที่นอนให้อยู่ในระนาบแนวตรงได้ดีมากครับ ผมบอกได้เลยครับ ถ้าเป็นที่นอนนุ่ม และเนสปริงด้วยแล้วนั้น Florian Hill คือรุ่นที่ผมพูดจากใจเลยครับว่ามันคือที่นอนที่ดีที่สุด เอาเป็นว่าถ้าพี่พี่ท่านไหนไม่เชื่อ และไม่ได้ติดปัญหาเรื่องงบประมาณแต่อาจจะหาที่นอนุ่มแต่ไม่ปวดหลังมาข้างการ พี่ครับลองไปลองนอนตัวนี้เทสดูครับ ผมเชื่อว่า ผ่านเลยครับผมมม

 
 
 .......................................................
 
 

และอีก 1 ตัว ที่ถ้าจะไม่พูดถึงเลยคงไม่ได้ ถ้าเป็นในส่วนของตัว Seasonspring

ของตัว Omazz ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่เป็นตัว รุ่น เรื่องธง ของช่วงนี้

บอกเลยว่า ถ้าหมดแล้ว อด และจำเสียดายครับ

เรามาดูรุ่นนี้กันแบบเต็ม ๆ พร้อมที่มาที่ไปกันเลยดีกว่าครับ

แค่สเป็กและราคาค่าตัวก็กินขาดในทุก ๆ ยี่ห้อและครับผม  

 

 
 
 
 

มาครับ สิ้นสุดการรอคอย กับพี่พี่ที่เป็น แฟน omazz
ในราคา บันเทิงสุด ๆ  2 หมื่นกว่าเองครับ

หลังจากที่ผมลงในในเฟสร้าน  www.facebook.com/ekaluk.mattress   ที่ว่า เดี่ยวจะมีการทำรายการครังใหญ่ของ Omazz นั้น
ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งผมเน้นทำรายการ Omazz ให้อยู่ในเร้นราคา 2 หมื่น กว่า ๆ นั้น ตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้วนะครับ  ขอเฮ้ หน่อยนะครับ

 

( บอกเลยว่าราคาไม่แรงจริง ๆ ครับ เพราะ omazz ปกติถูกสุดต้องมี 3 หมื่นกว่าทั้งนั้น แต่ผมทำราคามา 2 กว่าเองครับ พลาดไปแล้ว เสียใจแน่ครับ)


ซึ่งผมเองดีใจมากครับ เลยขอเอาข่าวดีตรงนี้มาบอกกล่าวพี่พี่นะครับ...เพื่อพี่พี่ท่านไหนสนใจ omazz หรือเป็นแฟน omazz แต่ติดตรงที่ราคา
แต่ละตัวนั้นจะแพงไปไหน ซึ่งผมบอกเลยครับว่า ถ้าพี่คิดว่า omazz แพงนั้น พี่คิดผิดนะครับ เพราะเท่าที่ผมได้รู้และสัมผัสมานั้น ที่นอนเค้าดีนะครับ
ในรุ่นที่เป็นรุ่นมาตรฐานครับเท่านั้นครับ ซึ่ง โอมาสนั้นถือว่าเป็นยี่ห้อที่เน้นเรื่องคุณภาพ และบริการที่สูงมากครับ เลยทำให้ราคาก็สูงตามไปด้วยครับ
ซึ่งเปรียบง่าย ๆ omazz นั้น ถ้าเทียบรถยนต์ ก็ประมาณว่า พวกรถยุโรป อะไรแบบนั้น อย่าง benz หรือ bmw ครับ ซึ่งแน่นอนว่าราคา และยี่ห้อของพวกนี้ สามารถ การันตี คุณภาพด้วยตัวมันเองได้อยู่แล้ว และเดี๋ยวนี้ผู้บริโภค (ขอใช้คำนี้เลยนะครับ) ว่า ถ้าจะซื้อของแบบนี้แล้วโง่มีที่ไหน
ไอคำที่ว่า มีตังอย่างเดียวไม่พอต้องโง่ด้วยนั้น ถ้าเป็นสินค้าที่เป็นที่นอนนั้น ผมต้องบอกเลยครับว่า พี่เก็บคำนี้ไปใช้กับสินค้าอย่างอื่นเลยครับ
เพราะที่นอนนั้นมันดีหรือไม่ สัมผัส เพียงแค่นอนหรือ นอนเพียงไม่กี่วันก็ทราบและครับ และบวกกับ โลกอินเตอร์เน็ดเปิดกว้างแบบนี้ด้วยแล้ว
พี่ครับ ถ้าไม่ดีจริง คงโดน กระทรวก ไส้แตก ไปนานและครับ แต่นี่อยู่ได้ เพราะ คุณภาพ ล้วนๆ ที่เหมาะสมกับราคาครับ

แต่ผมเองก็เข้าใจนะครับ .... ว่า ในการที่เราจะซื้อ หรือจะทำอะไรอย่าง 1 มันก็ควรมีตั้งงบประมาณไว้ ซึ่งการแต่งบ้านหรือแต่งห้องนั้น
ผมบอกเลยครับ ว่ามันบานปลายมากครับ ซึ่งที่นอนนั้นจะเป็น 1 อย่างและ 1 สิ่งที่เป็นตัวที่ทำให้พี่ รู้จักคำว่าบานปลายครับ
เพราะพอเทสไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าตัวที่นอนแพงนั้นเห็นผมชัดเจนมาก ยิ่งถ้าพี่พลาดมาเทส omazz ด้วยแล้ว ที่เป็นเจ้าแห่ง
การทำที่นอน ที่นอน ดูดวิญญาณ ด้วยแล้ว บอกเลยครับ ว่าพี่ท่านไหน ใจถึง กัดฟัน ก็จัดไปซะ 3-4 หมื่น ส่วนพี่ท่านไหนนั้น
เรื่องงบประมาณฟิตจริง ๆ ผมเองก็ต้องบอกเลยครับว่า พี่ อดสอย ตัวโอโลโก้น้ำเงิน กลับไปบ้านแน่นอนครับ ที่ผมบอกแบบนี้เพราะ
พี่ครับ โอมาสนั้นเป็นยี่ห้อที่เน้นเรื่องคุณภาพที่เน้นใส่จริงใส่เต็มมากครับ เลยทำให้ที่นอนขั้นต่ำต้องมี 3 หมื่นกว่า ถึง 4 หมื่นกว่าขึ้นไปซึ่งเป็น
เบสขั้นพื้นฐานอยู่แล้วครับ ซึ่งในราคา 2 - 2หมื่นกว่านั้น โอมาสไม่ทำครับ เพราะต้นทุนสินค้าทำไม่ได้ครับ

แต่ในครั้งนี้ ผมเน้นอาศัย จัวหวะชุลมุน และความใจดีของ ตั่วเฮีย นะครับ....ซึ่งเปิดโอกาศให้ผมได้โปรดีดีแบบนี้มาเพื่อเป็นของขวัญ
ให้ผมส่งต่อ แก่พี่พี่ที่สนใจที่นอนอยู่ ณ ตอนนี้ครับ /// ซึ่งตอนแรก เฮียเค้าก็บอกว่า น้องอย่างได้ตัวไหนสเป็กแบบไหน เฮียให้เป็นของขวัญ
ให้ มรึงทำโปร ผมเองก็ด้วยความที่ ไม่ค่อนโลภ + เมามาก ครับ เลยขอแจ้งเฮียเค้าไปอยู่  6  ข้อครับ ( ซัดไปเต็มข้อเลยครับ )


1 ที่นอนตัวนั้นต้องเป็นที่นอนที่มีความหนา 13 นิ้ว ขึ้นไป
2 ต้องเป็นสปริที่เป็นระบบ super Bonnel ซี่ลี่สูงเท่านั้น
3 อยากได้ ผิวบนที่เป็นตัวยาง รุ่นใหม่ ที่เป็นเทคโนโลยี่ VEgetable oil สกัด  ( เดี๋ยวอธิบายให้ครับ ) พอดีพึ่งคุยกับฝ่ายวิจัย และพัฒนา มาครับ
4 top ต้องเป็นยางพาราแบบ florian Hill ที่หนา 3-3.5 นิ้ว ขึ้นไป
5 ฟิวโดยรวม นุ่มแน่น เน้นห่อตัว แต่ต้องรับน้ำหนัก ผู้นอนให้ได้ขึ้นต่ำ 120 โล และที่นอนไม่ยวบเป็นแอ่ง (ข้อนี้ยากมากครับ )
6 ข้อสุดท้ายครับ ผมอยากได้แบบซื้อปุ๊ป นอนได้ปั๊ป ของแถมครบ ๆ ในราคา 2 - 2 หมื่นกว่าครับ และต้องเป็นรุ่นมาตรฐานที่ ที่ไหน ๆ ก็ต้องมีขาย
   ให้พี่พี่ที่อยู่ กทม หรือ ต่างจังหวัด สามารถลองเทสได้ และต้องเป็นรุ่นมาตรฐานที่เป็นรุ่นสเป็กเต็มเท่านั้น ผมไม่เอา รุ่น only ที่ขายเฉพาะที่ครับ

ซึ่งผมบอกจบ 6 ข้อ เฮียเค้าถึงกับเงียบ ซึ่งผมเองก็คิดว่า แห้วแล้ว ใส่เยอะไป  5 ข้อแรก นั้นพอเป็นไปได้ แต่ ข้อ 6 ซิครับ มันจะเป็นไปได้ไง
ผมว่าข้อ 6 นี้เลยทำให้เฮียเค้าเงียบครับ .... และเรื่องนี้ก็หายไป 2 วัน และวันอังคารที่ผ่านมากมีโทรศัพท์มาครับ บอกว่าเฮียมีข่าวดี ให้รออีก 2 วัน
ซึ่งตอนนี้ผมขณะพิม  ตอนนี้วันพฤหัสนะครับ  ผมทราบเรื่องตอนช่วง 4 โมงเย็นครับ และตอนนี้ผมพิมอยู่เป็นเวลา 5 ทุ่ม 15 ครับ

 ซึ่งต้องพิมแบบ เกริ่น ยาวแบบนี้เพราะ เหตุจาก เฟสร้านที่ผมบอกไปครับ ว่าจะทำโปรโอมาส 2 หมื่นกว่า แถมครบ
มีพี่พี่ โทรมาถามรุ่นผมเยอะมากครับ...ซึ่งผมเองก็บอกไปว่า รุ่นผมยังไม่ทราบถ้าทราบแล้วผมจะบอกอีกที
 ซึ่งวันนี้ผมรับสายโทรศัพท์ มากกว่าปกติถึง 2 เท่าครับ น่าจะร่วม 100 คนได้ครับที่โทนเข้ามา
ซึ่งพี่บางท่านก็โทรมา 2-3 รอบครับ เล่นผม ขอโทษไม่ทันเลยครับ เลยต้องใช้ช่องทางนี้มากล่าวขอโทษพี่พี่นะครับ
ที่ช้านิดนึง แต่ผมเชื่อว่า โปรที่ผมได้มา กับรุ่นที่ผมได้มานั้น เมื่อเทียบกับฟิวที่นอนที่พี่ต้องจ่ายผมบอกเลยครับ ว่าคุ้มค่ามากครับ
พูดง่าย ๆ ว่า  ตั่วเฮีย  ตั้งใจทำที่นอน omazz ตัวนี้มาเพื่อสร้างชื่อมากครับ
เพื่อ ฆ่า ทุก brand ในเร้นราคา 2-3 หมื่นทุกตัวเลยครับ
บอกตรง ๆ ทุกตัวจริง ๆ ครับ

 
 

เมื่อบอกแบบนี้แล้ว ผมเชื่อว่าพี่พี่หลาย ๆ ท่านนั้น อยากจะทราบแล้วใช้มั้ยครับ ว่ามันคือรุ่นอะไร

มาครับ ผมเฉลยก็ได้ครับ... รุ่นที่ผมได้โปรมาเป็นของขวัญจาก เฮีย เค้านั้นคือรุ่น

Omazz รุ่น Organique และตัว Omazz รุ่น Organique Plus ครับ

ซึ่งถ้าถามเรื่องราคาและสเป็กนั้นบอกได้เลยว่า ถ้าพี่พี่ได้เจอและได้ลองเทสแล้วนั้น บันเทิงแน่นอนครับ



 
 

( ในภาพที่นอนอาจจะดูฟีบ ๆ นะครับ แต่ถ้าพี่มาเจอตัวจริง ๆ แล้วพี่จะชอบแบบผมครับ )

และยิ่งถ้าเป็นตัว  Omazz รุ่น Organique Plus ด้วยแล้วนั้น ( ตามรูปเลยครับ ) ผมบอกพี่พี่เลยครับว่า โหงวเฮ้ง ที่นอนดีมากครับ ซึ่งตัวนี้ทีแรกนั้นจะทำออกมาบาง ๆ ครับ แต่ตอนหลังเค้าได้ทำการ minor-change เมื่อไม่นานมานี้ครับ ซึ่ง ตัวก่อน minor-change ผมเองก็ว่าดีแล้วนะครับ แต่ก็ยังแพ้ slumberland ในบางรุ่นอยู่ ที่ราคาอยู่ในเร้นเดียวกันครับ แต่พอผมมาเจอตัว Omazz รุ่น Organique Plus ที่เป็นตัว minor-change แล้วนั้น บอกพี่ตามตรงเลยครับ ตกใจมาก ทำมัยที่นอน 2 หมื่นกว่านั้นมัน อลังการ แบบนี้ครับ และฟิวการนอนนั้นมีการปรับปรุงมาให้มีความกระชับมากกว่าเดิมเยอะมากเลยครับ โดยการเพื่มตัว ผิวแผ่นยางจาก 2 นิ้ว มาเป็น 4 นิ้วเลยครับ แบบเต็ม ๆ ซึ่งเลยทำให้ที่นอนนั้นมีความสูงและหนาถึง 14 นิ้วเลยครับ

 (ซึ่งพี่พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องผ้าปูนะครับ เดี๋ยวนี้ผ้าปูที่หนา 14 นิ้วหาง่ายและราคาไม่แพงครับ และสีและแบบรายนั้น มีให้เลือกมากกว่าตัวผ้าปูที่เป็นแบบ 6-8 นิ้วและครับ ถ้าพี่ท่านไหนกังวลเรื่องผ้าปูที่นอน ผมบอกเลยครับว่า พี่พี่สบายใจได้ครับ )

ที่นอนที่หนา 14 นิ้วนั้น ในราคา 2 หมื่นกว่านั้นผมบอกเลยครับ ณ ตอนนี้ ชั่วโมงนี้เค้าไม่มีใครทำกันนะครับ เพราะสู้เรื่องต้นทุนไม่ไหวครับ....ซึ่งถ้าพี่พี่ได้ไปเดินเช็คหรือเดิมดูตามห้างต่าง ๆ นั้น พี่พี่จะทราบอยู่ในใจอยู่แล้วครับ  ว่าที่นอนที่หนา 14 นิ้วแบบตัว Omazz รุ่น Organique Plus นั้น พี่ต้องจ่ายจริง ๆ ในราคา 4 หมื่นกว่า up ถึงจะได้ที่นอนที่หนา 14 นิ้ว และฟิวนุ่มแน่นแบบนี้ครับ







ซึ่งก็อย่างที่พี่เห็นครับ .... ผมจึงเอาที่นอนมาและเอาตลับเมตรมาวัดแบบ จะจะ ให้พี่ เห็น เห็น เลยนะครับ ซึ่งต้องเรียนพี่ตามตรงครับ ณ ตอนที่ผมวัดนั้น ที่นอนซีลพลาสติกอยู่นะครับ ซึ่งผมไม่สามารถตบที่นอนให้ฟูก่อนและค่อยมาวันได้นะครับ ก็ที่นอนส่งมาปุ๊บผมก็เอามาวัดปั๊บ

 ให้พี่เลยครับ....ก็ตรงไปตรงมาครับ

และที่สำคัญตัวนี้เป็นการสร้างโดยความร่วมมือกัน 3 ประเทศนะครับ  โดยมีประเทศไทย อเมกา และเบลเยียมในการร่วมกันสร้างและแชร์เทคโนโลยี่ ในการผลิตที่นอนโดยเทคนโลยี่ระบบสปริงนั้นจะใช้ของทาง usa และ ผิวหน้าหรือ top บนนั้นจะใช้ของ Usa และ Belgium ครับ โดยพี่ไทยนั้นจะอยู่ในด้านของการประกอบและผลิต เพื่อส่งขอยทั่วโลกครับ ซึ่งเป็นผลดีมาก ครับมันเลยส่งผลให้ที่นอนตัวนี้ราคาไม่แรงเพราะมี วอลุ่ม ในการผลิตที่สูงครับ และที่สำคัญตัวนี้ใช้เป็นตัวยางพารา ชนิดใหม่สุดที่เป็นตัวยาง VEgetable oil ของ Belgium มาผสมกับตัวยางพาราที่เป็นตัว ยางพาราแบบ Talalay ของ usa ครับ ซึ่งให้ฟิวการนอนที่มีความหนืด และนุ่มในส่วนของตัวผิวหน้านะครับ






ซึ่งตัวยาง VEgetable oil นั้นสำหรับรุ่นนี้ ถือว่ามีความสำคัญมากนะครับ เพราะเนื่องจากถ้าเทียบกับยางชนิดเดิมที่เป็นตัว  Organique ที่มาจากน้ำมันถัวเหลืองนั้น ตัว VEgetable oil ถูกออกแบบมาเพื่อเหมาะสำหรับการเป็นชั้นเสริมตรงผิวหน้ามากกว่าครับ โดยจะให้ในส่วนของความยืดหยุ่นและความหนืดที่มีมากกว่า 4-5 เท่าครับ ซึ่งจะผิดกับตัว Organique ที่มาจากน้ำมันถัวเหลืองครับทีเหมาะสมกับการเป็นเบสลองที่นอนครับ เพราะโดยรวมถึงแม้จะยืดหยุ่นได้ดี แต่โดยฟิวร่วม ๆ ของตัวOrganique ที่มาจากน้ำมันถัวเหลืองนั้น จะออกแน่น และให้ความหนืดที่น้อยกว่าครับผม ซึ่งตัว VEgetable oil นั้นมีฐานกำเนิดจากประเทศ Belgium นะครับที่เป็นคนค้นคิดและพัฒนาขึ้นมา และ ณ ตอนนี้ ในยี่ห้อดัง ๆ ในหลาย ๆ ยี่ห้อนั้นเริ่มเข้ามาใช้วัสดุตัวนี้มาเป็นส่วนผสมของตัวที่นอนอย่างแพร่หลายมากครับ .... แต่ omazz นั้นเป็นเจ้าแรกนะครับ ที่เอาระบบนี้มาใช้ก่อน และตอนนี้ในหลาย ๆ ประเทศ อย่าง สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ ที่เป็นประเทศพัฒนา เค้านิยมใช้กันมากนะครับ เพราะเป็นมิตรต่อคน ซึ่งยางตัว VEgetable oil สกัดนั้น ช่วยในเรื่องของการลดความชื้น กลิ่นอัป กลิ่นไม่พึ่งประสง และรวมไปถึงไม่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ และ สัตรว์เลี้ยงครับ ทางด้านระบบการหายใจครับ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นยางแบบดั่งเดิม เรื่องพี่พี่บางท่านแพ้มีอาการระคายเคืองตามผิวหรือหายใจและแสบจมูกนั้นเจอบ่อยนะครับ เพราะเกิดจากส่วนผสมของการทำที่นอนยางพาราบางส่วนระเหยออกมาทุก ๆ วันอยู่ตลอดเวลาครับ ซึ่งพอสารเหล่านั้นระเหยออกมาหมดแน่นอนครับยางพารานั้นก็แห้ง กรอบ และแตกเป็นผงผงป่น ๆ ครับ ซึ่งถ้าพี่พี่ที่ใช้ยางพารารุ่นแรก ๆ จะทราบดีครับกับอาการแบบนี้ครับ

 แต่ถ้าพี่ใช้ยางตัว VEgetable oil สกัดนั้น บอกเลยครับ ปัญหาต่าง ๆ นั้นหมดไป และที่สำคัญหลัก ๆ เลยนะครับคือ

เป็นมิตรต่อคนก็จริง ---  แต่ส่งผลเสียต่อโลกครับ เพราะแน่นอนว่าตัวนี้เค้าพัฒนาให้ตัวยางพารานั้นมีความ อึด ถึก ทน ต่อทุกสภาพอากาศโดยเฉพาะ ความร้อนของประเทศไทนและความร้อนของประเทศตะวันออกกลางครับ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องการย่อยสลายนั้นจะยากกว่ายากพาราแบบเดิม ๆ ของบ้านเรา ถึง 5-6 เท่าตัวเลยครับ ซึ่งแน่นอนครับหมดปัญหาว่าพี่นอนลงไปแล้ว 2-3 ปี ผิวหน้าที่นอนยุบหรือฟีบ เป็นแอ่งครับ เพราตัวยางพาราตัวนี้ที่ชื่อ VEgetable oil เป็นอีก 1 ขั้นครับ ที่เป็นการต่อยอดของตัวระบบยางพาราให้มีโครงสร้างและแน่นเรื่องการบวกการผลิตที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อให้ได้คุณภาพที่ มนุษย์ อย่างเราเราต้องการครับ ซึ่งแน่นอนว่าได้ทั้งสุขภาพและความคงทนด้วย เทคโนโลยี่ที่นอนนั้นก็เหมือนรถยนต์ครับ

 ยิ่งนับวันเทคโนโลยี่ก็จะไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ครับ เพราะเนื่องจากการแข่งขันกันสูงมากครับ แต่ในทางกลับกัน เทคโนโลยี่สูงมากขึ้น แต่ราคาต่อหน่วยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี่นั้น ๆ ก็จะถูกลงครับ ซึ่งเป็นผลดีมากครับ ซึ่งหมายความว่า พี่จะได้เทคโนโลยี่ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเกิดจากพัฒนาและต่อยอด แต่พี่จ่ายค่าตัวในเทคโนโลยี่ที่นอนรุ่นนั้น ๆ ในราคาที่ถูกลงครับ  ซึ่งตลาดที่นอนสมัยนี้ไม่เหมือนตลาดที่นอนสมัยก่อนนะครับ ที่ค่าตัวที่นอนแรงตามเทคโนโลยี่ครับ

 
 

 

ตัวนี้ก็อย่างที่ผมบอกนะครับ เนื่องจากเป็นการร่วมมือกันทำทั้ง 3 ประเทศ โดยมีประเทศไทยเป็นฐานการผลิต และใช้เทคโนโลยี่ของทาง Usa และ Belgium นั้นและส่งออกขายในประเทศที่พัฒนา อย่างรุโรป และ ตัววันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักครับ เลยทำให้ที่นอนตัวนี้ไม่ใช่เพียงแค่ top ผิวหน้าที่ทำออกมาได้ดีนะครับ
แต่รูปแบบโครงสปริงนั้นเป็นระบบแบบ super bonnel  ชนิดพิเศษที่เน้นตัวซีลี่ของเกรดสปริงที่สูงและเน้นเนื้อแหล็กและคาบ่อนให้มีคุณภาพที่สูงตามสัดส่วนของเนื้อเหล็กไปด้วย เลยทำให้สปริงของตัว Organique Plus นั้นพิเศษกว่ารุ่นอื่น ๆ ครับ
ซึ่งที่ผมบอกแบบนี้เพราะผมเทสมาแล้วครับ เนื่องจากตัวนี้ต้องทำส่งออกเป็นหลัก พี่ครับ คุณภาพทุกอย่างต้องรองรับผู้นอนที่เป็นขนาดขนาดไซส์ยุโรปและตะวันออกกลางเป็นหลักนะครับ ซึ่งต้องบอกและเน้นอีกทีครับ Organique Plus นั้นทำออกแบบมาเพื่อขนาด ไซส์ยุโรปและตะวันออกกลางเป็นหลัก ซึ่งต้องรองรับผู้นอนที่มี ไซส์ ขนาดใหญ่ และน่ำหนักผู้นอนต่อท่าน ไม่ร้อยกว่า กิโล ก็ร่วม ๆ ร้อย กิโล นะครับ ซึ่งถ้าทำที่นอนตัวนี้ออกไป ได้แต่หน้าตา ฟิวลิ่งที่นุ่มแน่น แต่เรื่องการรองรับ ไม่ทนหรือทนต่อแรกกระแทรกหรือแรงกดทับจุดเดิม ๆ เป็นเวลานาน ๆ ไม่ได้นั้น พี่ครับ....กลับบ้านเราเรื่องแบบนี้คือเรื่องเล็ก แต่ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น พี่ครับ ถ้าทำออกมาแล้วมีปัญหาแบบนี้ผมเชื่อว่า บริษัทแม่ผู้ผลิต โดนอัดติดมุมแน่ครับ ซึ่งเท่าที่คุยกับ ตั่วเฮียของ omazz มานั้น ตัวนี้เค้าตั้งใจทำสเป็กให้เป็นแบบเกรดส่งออกมาก ๆ ครับ ซึ่งความแข็งแรงของสเป็กนั้น เกิน 100% แน่นอนครับ ซึ่งที่ผมบอแบบนี้เพราะ พี่ลองดูรูปด้านล่างนะครับ

 



พี่เสื้อดำนั้นน้ำหนัก ร่วม 100 กก ครับ น่าจะอนู่ที่ประมาณ 80 ปลายถึง 90 กก ครับ ส่วนพี่อีกท่านนึงน้ำหนัก 100 กก + ครับ น่าจะอยู่ที่ 115-110 กก ครับ ซึ่งพี่ลองดูครับ ที่นอนเวลานั่งไปแล้วที่นอนรองรับตามโคล้งของก้นได้ดีมากครับ รับตามรูปหลังครับ.....ส่วนเรื่องเวลานอนลงไปแล้วนั้น ตามรูปเลยครับ  ถ้าพี่ที่รูปร่างปกติหรือมิได้เจ้าเนื้อนั้น ถ้านอนลงไปแล้วในตัวนี้บอกเลยครับว่าไม่มีปัญหาอะไรนอนสบายครับ แต่สำหรับพี่ที่รูปร่างใหญ่นั้น ที่นอนที่นุ่ม หรือที่นอนที่เบสพื้นฐานไม่ดีนั้น ที่นอนจะจมและยวบลงไปเลยครับในส่วนของตรงที่เนื้อกองอยู่ อย่างเช่นพุงครับ ซึ่งจะทำให้เป็นข้อจำกัดมากครับ คือต้อนนอนแต่ที่นอนแน่นอย่างเดียวส่วนที่นอนนุ่มนั้น เนื้อตรงพุงจะส่งผลต่อที่นอนทำให่เวลานอนลงไปแล้วนั้นหลังเราจะเป็นรูปตัว v หรือตัว u ครับ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดหลังครับ ซึ่งพี่พี่หลาย ๆ ท่านจะถามผมว่า น้องแล้วตกลงชาตินี้พี่จะนอนที่นอนนุ่ม หรือฟิวนุ่มแน่นไม่ได้เลยหรือ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงตอบพี่ไปตามตรงว่า ได้ครับ แต่งบประมาณพี่ต้องจ่ายสูงหน่อน คือ 3 หมื่นปลายถึง 4 หมื่นต้น ๆ ในขั้นต่ำ  อย่างพวก sealy รุ่น the royal อะไรแบบนี้ ที่ราคาปาไป 4 – 5 หมื่น ครับ หรืออย่างต่ำ ๆ ก็ต้อง sealy รุ่น ocean ที่ราคา 3 หมื่นกว่า ถึง 4 หมื่นต้น ครับ ซึ่งสำหรับพี่ที่งบประมาณแบบจำกัดต้องบอกเลยครับว่า พี่จะอยู่ในอารมณ์ที่ว่า กลับตัวก็ไม่ได้จะไปต่อไปก็ไปไม่ถึงครับ เพราะ นอนตัว 3-4 หมื่นนั้นฟิวมันช่าง ซะจริง ๆ พอในงบประมาณ หมื่นปลาย ถึง 2 หมื่นกลางฟิวมันก็นะครับ ต่างแบบสุด ๆ เลย ซึ่งผมเองอยู่ตรงนี้ หรือจุดนี้บอกเลยครับ เจอพี่พี่มาถามผมบ่อยมากครับว่าน้องแล้วแบบนี้พี่จะทำอย่างไร ซึ่งเมื่อก่อนผมคงบอกว่าทำใจครับ เพราะ ถ้าพี่กัดฟัน ก็ happy กับที่นอนคุณภาพที่เหนื่อกว่า แต่ถ้าพี่บางท่านไม่สู้ราคาก็ต้องทำในไปตามงบประมาณครับ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ วันนี้ ผมบอกพี่เลยครับ สำหรับพี่ที่น้ำหนักตัวเยอะ และชอบที่นอนแบบ นุ่ม หรือนุ่มแน่น พี่ไหลมาทาง Organique Plus ได้เลยครับ ผมเชื่อว่า ทั้งฟิวการนอน และเรื่องการเน้นสุขภาพหลังนั้น รวมไปถึงราคา พี่ครับ Organique Plus ตอบโจทย์พี่ได้ดีมาก และบันเทิงมาก ๆ ด้วยเช่นกันครับ กับกระเป๋าตังของพี่ครับ ในราคาเพียง หลังเลข 2 หมื่น กว่า ๆ ครับ ... พี่ผมเอารูปที่เกิดจากการเทสจริง ๆ ให้พี่ดูเลยครับ
ถ้าไม่ดีจริงผมคงไม่กล้าออกตัวแรงแบบนี้ พี่ลองดูครับ ในรูปพี่ที่นอนน้ำหนัก 100 กก บวก ตรงช่วงพุงหรือหลังนั้นเป็นเส้นตรงจริง ๆ ครับ ไม่มีแบบ ยุบหรือยวบเลยครับ ซึ่งยางตัวบีเก็ยรายระเอียดได้ดีมากครับ และสปริงตัวร่างเป็นเบสและฐานที่ดีมากครับ จัดระเบียบหลังอยู่ในจุด Correst Orthopedic Position มากครับ ซึ่งดีต่อสุขภาพหลังของพี่พี่มากครับ พูดง่าย ๆ ว่า ที่นอนตัวนี้ช่วยรองรับเร้นของน้ำหนักผู้นอน ตั้งแต่ น้ำหนัก 40 กว่า ๆ ยันไปถึง 100 ++ ครับ ได้อย่างสบาย ซึ่งเป็นที่นอนเพียงไม่กี่ตัวครับ ที่ทำออกมาที่รองรับเร้นน้ำหนักผู้นอนได้เยอะและมากขนาดนี้ครับ


ในความคิดส่วนตัวผมเลยนะครับ .....

 ตัวนี้เท่าที่ลองเทสดูเองซึ่งเป็นตัวก่อน minor change ผมเองก็ว่าดีนะครับ แต่ก็อยู่ในระดับกลาง ๆ ครับ .... แต่พอมาเจอตัว minor change แล้วผมบอกเลยครับ เมื่อคืนผมลองนอนและครับ บอกเลยว่าตกใจมากครับ ซึ่งฟิวไม่ต่างอะไรกับที่นอน 4-5 หมื่น อย่าง ยี่ห้อดัง ๆ อย่างพวก sealy slumberland  เลยครับ ซึ่งต้องบอกตามตรงว่า ตรงนี้ผมเองก็พูดตรง ๆ ครับ เพาะผมเองมี ความสัมพันธอันนี้ กับ 2 ยี่ห้อหลักนี้อยู่แล้ว แต่พอเจอตัว omazz รุ่น Organique Plus เข้าไปผมบอกเลยครับว่า ความจริงก็คือความจริง sealy กับ slumberland  เหนื่อยแน่ ๆ ครับ
กลับกลุ่มสินค้าราคา 2-3 หมื่นครับ ซึ่งผมบอกเลยครับว่า Organique Plus ตีตามแน่นอนครับ ซึ่งในฟิวแบบนี้เท่าที่ผมเทสมา
ราคาแบบนี้ด้วยแล้วนั้น แถมยังบวกของแถมและวัสดุต่ง ๆ ที่ทำออกมาแบบนี้ ตัว Organique Plus ชนะตั้งแต่ตลาดราคา 2 หมื่นกว่า ยันไปถึง 4 หมื่นกว่าเลยก็ว่าได้ครับ   omazz เล่นแรงแบบนี้ บอกตรง ๆ ตลาดที่นอนอยู่ยากขึ้นทุกวันและครับ


สุดท้ายนะครับ....ทุกครั้งที่ผมออกไปรับพ่พี่ลกค้าเองทุกครั้ง จะมี 1 คำถามที่ผมโดนถามบ่อยมากครับ คือ ถ้าถ้าในเร้นราคาเท่านี้น้องเลือกตัวไหน ซ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน หรือเดือนก่อน ผมคงบอกลยครับว่า พี่  2-3 หมื่นผมคงเลือก slumberland ครับ เพราะ omazz ในสายตาผม ที่นอนสปริงถือว่าปกติครับมิได้ตื่นเต้นอะไร ส่วนุ่นที่ผม ok หรือชอบ อยู่ omazz รุ่น Fuller นั้น หรือตัว Florian Hill ราคาก็ปาไป 3 หมื่นกว่า และอีกตัวก็ปาไป 5 หมื่นกว่า ซึ่งเกินงบประมาณทั้งนั้นครับ  แต่ถ้า ณ ตอนนี้ วันนี้ และหลังจากนี้ไป ผมไม่ได้ชง หรือเชียแบบออกนอกหน้านะครับ
 ถ้าผมจะซื้อจริง ๆ ผม ในใบ 2-3หมื่น
พี่ครับ ซื้อตัว omazz รุ่น Organique Plus แน่นอนครับ ไม่ต้องอ่านสเป็กด้วยครับ ลองเทส ดูราคา เปรียบเทียบ และยิ่งช่วงนี้ร้านผมโปร เล่นแบบ ราคาประชิดทุนเลยคับ ก็เอาราคาขายส่งมาขายปลีกอาครับ ทำให้ omazz อยู่ในเร้นราคา 2 หมื่นกว่า  และยังได้ของแถมแบบเต็ม ๆ ด้วยครับ ซึ่งถ้าไม่ซื้อตอนนี้ รุ่นนี้ ผมเองก็กำตังไปซื้อรุ่นอื่นไม่ลงและครับ บอกตามตรงครับ 
ไม่ใช่เพียงแต่ sealy slumberland  ครับ ยี่ห้อของตัวเองอย่าง lotus และ dunlopillo ยังโดนไปด้วยเลยครับ
บอกเลยว่าตัวนี้ทำออกมาสเป็กเต็มข้อจริง ๆ ครับ


 

 ก็ถ้าพ่พี่ท่านไหนนั้มีความสนใจทางด้านที่นอน หรือมีข้อสงสัยตรงไหนนั้น
ก็สมารถเข้ามาโพสสอบถามผมได้เลยนะครับ หรือสามารถโทรมาคุยได้เลยครับ

ที่เบอร์ 084-076-7991 ครับ

ถ้าเป็น ข้อมูลเรื่องที่นอน หรือคำแนะนำเรื่องที่นอนผมธันวายินดีให้ความรู้และคำแนะนำอย่างเต็มที่ครับผม

ขอขอบคุณที่พี่พี่ติดตามอ่านนะครับผม

 
 
..............................................................................................
 
 

และที่สุดของเตียงนอนที่ผม กล้า บอกอย่างเต็มปากเลยครับว่า

มันไม่ใช่เตียงนอน แต่มันคือ Innovation หรือ นวัตกรรม

แห้งการนอนที่ตอบ โจทย์ การนอนได้ทุกอย่าง ทั้งเรื่องความสบาย

และสุขภาพหลังได้อย่างดีที่สุด ครับ

 

OMAZZ รุ่น adjusto + franck Comfort + somerset I

OMAZZ รุ่น adjusto + franck Comfort + somerset I

OMAZZ รุ่น adjusto + franck Comfort + somerset I

 
 
 


 
 


ที่นอนและเตียงขั้นเทพ...ของวงการครับ  !!!
เดือนนี้ผมเองก็งงๆเพราะ ออกไปหลายชุดมากครับ  .... โดยปกติตัวนี้ทางบ้านห้ามให้ผมลอง เพราะเนื่องจากราคาสูงครับ  แต่ช่วงนี้พอดีของลงไปหลายตัวครับ ในเวลาเกือบเดือน บวกกลับมีของตัวโชว์ที่ทางโรงงานเค้าส่งมาฝากไว้เพื่อไปโชว์ต่างจังหวัดอัก 1 เดือนข้างหน้า  ก็เลย ถือเป็นโอกาสดีครับ  ที่ได้เอาตัวโชว์ มาให้ผมลองเทส 1 เดือน ซึ่ง ตอนนี้ผมเองนอนอยู่ ได้ 3-4 วันและครับ ซึ่งอายุของเตียงตัวนี้  ก็ถือว่าหลายปีอยู่ครับ และเป็นตัวโชว์ที่ออกงานมาตลอด ก็เท่าที่ใช้ลองปรับๆ ก็ถือว่า สมูทมากครับ ยังเหมือนเดิม เหมือนตัวใหม่ที่ลองไปปรับมาจากบ้าน พี่ อาม บ้านพี่ที่ผมพึ่งไปส่งมา (รูปที่ผมถ่ายมาจากบ้านพี่ อาม ครับผม ) .... !!!

ก็จาก 3-4 วันที่ลองเทสมา ก็อยากบอกว่าประทับใจมากครับ ตั้งแต่แรกเห็นเลย คือ จริง ๆ ผมเองเจอตัวนี้มานานและครับ หลายปีมาก  ผมเองดูแต่ราคาและสรุปให้เด็กที่ร้านเค้า .... แต่ก็มอง ๆ ดูงานโดนรวมก็ถือว่าเนียนดีครับไม่มีปัญหาอะไร สมราคา ตัวผ้าที่หุ้มนุ่มดีครับ และพวกโครงสร้างก็ถือว่าเเข็งแรงมาก  โดยส่วนใหญ่เตียงแบบนี้เค้าใช้เป็นตัวโครงกระดูกงู ผมนอนแล้ว แต่ไม่ค่อยประทับใจครับ ลองยกขาแกว่งตัวโครงจะสั่น แต่ตัวนี้ถือว่าแน่นมากครับ แทบไม่กระดิกเลยครับ เพราะโฟรมเป็นแผ่นอะคีหลิก อย่างหนาและโครงสร้างเป็นเหล็กกับอลูมิเนียมคุณภาพสูงครับ ไม่ใช้แป็ปเหล็กอบ่างของอื่น ๆ ครัย ผมได้ลองปรับโครงดูก็ถือว่า ok ครับ ปรับได้หลายสเป็คมากครับ ปลับได้ทั้งตรง หัว ตรงเท้า ตรงต้นขา และ ตรงหลังนี่เน้นดีมากครับ  คือเวลาปรับตอนไม่ได้ใส่ที่นอนผ้าจะย่น ๆ ครับ แต่พอใส่ที่นอนลงไปเนื่องจากมีแรงกด ก็เรียบปกติครับผม 

พอลองนอนลองปรับดูก็ถือว่า ok ครับนอนดีมาก เวลานอนตรง ๆ ปกติโดยที่ไม่ได้ปรับ...ตัวที่นอนกระชับดีครับจะออกนุ่มห่อตัวนิดๆ ครับ แต่พอเวลาปรับซิครับ ok เลย รองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบมากครับ  ทั้งพวกการดูหนัง ดูทีวี อ่านหนังสือ เล่นipad ฟังipot หรือ เล่น iphone  ซึ่งตัวนี้สามารถตอบโจทย์ได้หมด โดยที่ไม่ต้องใช้หมอนเลย .... และที่สำคัญตัวนี้มีการปรับแบบระบบนวดโดยการสั่นได้ด้วยนะครับ  ทีแรกก็ไม่ค่อยเชื่อว่ามันจะดี แต่พอลองไปเทสดู เพลินดีครับ มีเสียงนิดหน่อยตามปกติ

โดยรวม ก็ถือว่านอนดีถึงดีมากครับ ฉีกแนวจากที่นอนเดิม ๆ ไปมากเลยครับ .... ตั้งแต่เข้ามาวงการที่นอนนี้มาทั้งหมด ก็ 10 กว่าปีและครับ นอนที่นอนก็มาเยอะครับ ทุกยี่ห้อ เกือบทุกรุ่น เพื่อที่จะได้รู้และเอามาเป็นข้อมูลบอกลูกค้า ตัวนี้เป็นอีกตัวนึงที่บอกได้เลยว่า คุ้มค่ามากครับ ผมอิจฉา พี่ ๆ เฮีย ๆ จริง ๆ ที่ได้เอารุ่นนี้ไปใช้ ...... เพราะ ผมเอง งบไม่ถึงขนาดนั้นครับ Y_Y !!!  แต่สำหรับพี่ ๆ หลาย ๆ ท่าน .... ที่บางท่านบางคนเน้นพวกเตียงนำเข้า หรือ เตียงที่มามาจากวัสดุพิเศษพิเศษ ผมว่าอยากให้ดูตัวนี้เก็บไว้พิจารณาด้วยครับ ที่พิมพ์มาบอกเพราะหลาย ๆ ท่านไม่ทราบว่ามีเทคโนโลยีดีดีแบบนี้ด้วย  แต่สำหรับผม ที่เอามารีวิวให้ดู เพราะ ตัวนี้ผมว่าเป็นเทคโนโลยีที่มาพร้อมความสะดวกสะบายที่สามารถจับต้องได้จริงและใช้ได้จริง ๆ ครับ

ก็ลองดูครับ ที่นอนตัวนี้ set นี้ ราคาประมาณรถยาริส ครึ่งคันครับ .... อาจจะเหลือทอนนิดหน่อยครับ อิอิ แต่ดีจริง ๆ ครับ ผมฟันธงเลยย !!!!

พี่พี่ท่านไหนสนใจก็ลองดูนะได้นะครับ ตามห้างต่าง ๆ เค้าก็จะมีโชว์อยู่เยอะพอสมควนครับ ซึ่งตัวนี้ถือ่าเป็นรุ่นแพงที่ขายดีที่สุดเลยก็ว่าได้ครับผม
ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงราคาที่สูงนะครับ แต่คุณภาพการนอน ตัวนี้ทำออกมาได้รองรับทุกอิริยาบถการนอนเลยทีเดียวครับ  !!!!

 

...........................................................................................................
 
 
 

Lotus

 
 
 
 
 

 

ยี่ห้อนี้ถ้าเทียบกันจริง ๆ ยี่ห้อนี้ถือว่าเป็นยี่ห้อที่ สุ่มเงียบ มากครับ เพราะยี่ห้ออื่น ๆ เวลาทำอะไรใหม่ออกมาก็จะโปรโมทแรง ๆ แต่ lotus นั้น เวลาทำอะไรออกมาจะเน้นระยะยาวครับ คือให้สินค้าขายตัวมันเอง โดยการถ้าในราคา 20000 ยี่ห้ออื่นก็จจะทำสเป็กมา 20000 แต่ถ้าเป็น โลตัสทำ ถ้าราคาที่นอน 20000 เค้าจะใส่สเป็กเป็นแบบ 25000 อะไรแบบนี้ ถ้าไม่เน้นอัดเรื่องสเป็กที่นอน ก็จะเน้นอัดไปทางสเป็กของแถมที่ถือว่าเป็นเกรดดีนะครับ แต่ยี่ห้ออันนี้เรียนตามตรงนะครับ .... ผมเองก็เข้าใจพี่พี่ แต่พอมาได้คลุกคลีถึงจะเข้าใจครับ ซึ่งที่ผมเข้าใจพี่พี่คือ ยี่ห้อโลตัส นั้นเป็นยี่ห้อของไทย ยี่ห้อ otop รึป่าวน้องพี่ไม่เอา...ถ้าต้องจายในราคาหลักหมื่นหรือหลาย ๆ หมื่น พี่ว่าพี่ดูยี่ห้อต่างประเทษดีกว่า อะไรแบบนี้ ซึ้งถ้าพี่คิดแบบนี้พี่รบกวนเปลี่ยนความคิดใหม่เลยนะครับ ที่นอนโลตัวไม่ใช่ที่นอน otop นะครับ ยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อที่อินเตอร์มากนะครับในหลาย ๆ ประเทษโดยเฉพาะสิงคโปค์ ยี่ห้อนี้ถือว่าได้รับความนิยมมากนะครับ และที่สำคุญอย่างที่ผมบอกพี่ไป โลตัส เป็นเจ้าของ ยี่ห้อ Omazz / Dunlopillo นะครับ ซึ่งตอนนี้โลตัวถือว่าเป็น เบอร์ 1ในวงการที่นอนเลยก็ว่าได้ครับ (และตอนนี้โลตัสเป็นผู้นำเทรนที่นอนนะครับ) ซึ่งเทคโนโลยี่ต่าง ๆ ถือว่าล้ำมากนะครับ และในราคาที่ไม่แพงด้วยซึ่งปัญหาตรงนี้สำคัณมากครับ ตรงราคาที่ไม่แพง อิอิ  ซึ่งจุดขายของโลตัสนั้นที่เด่นเลยคือระบบสปริงครับ ซึ่งเป็นระบบสปริงแบบ Super Bonnel ครับ พี่คุ้มมั้ยครับ ระบบสปริงแบบนี้ แน่นอนครับใช่เลยระบบนี้คือระบบสปริงของ omazz ครับ ซึ่งใช้เทคโนโลยี่เหมือนกันครับ ไม่ต่างกันเลย แต่แน่นอนครับว่าราคาต่าง ฟิวที่นอนก็อาจจะต่างกันบ้างแต่ไม่มากครับ ซึ่งตรงนี้เรื่องมาตรฐานการผลิดถือว่า พี่พี่ไว้วางใจได้เลยครับ แต่ที่โลตัสเก่งไม่ใช่แค่สปริงนะครับ แต่ที่เก่งและเก่งจริง ๆ ของโลตัสคือ เรื่องขอกที่นอนยางพาราสังเคราะครับ ซึ่งถือว่าเป็นยี่ห้อที่เป็นต้นเกินเนิดการทำที่นอนยางพาราสังเคราะเลยก็ว่าได้ครับ...และเป็นแบบฉบับของตัวเองด้วยครับซึ่งมีเทคโนโลยี่เฉพาะตัวครับ ทำให้ฟิวที่นอนยางพาราสังเคราะของโลตัสเค้ามีฟิวการนอนเทียบเท่าที่นอนยางพาราแท้ ๆ เลยครับ ไม่ต่างกันเลนครับ ยิ่งพี่ถ้าดูที่นอนที่เนยี่ห้อของไทย และเป็นยางพาราไทยที่ออกแน่น ๆ แล้วนั้น โลตัวทำออกมาไม่ต่างเลยครับ...ในฟิวการนอนแต่เรื่องการราคานี่จ่างเพียง 1ใน 3 ของราคาที่นอนยางพาราแท้ครับและทนทานมากครับผม

ซึ่งรุ่นที่เด่น และดังเลยต้องรุ่นนี้เลยครับ



 
 
 

รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ขายดีมากครับและเป็นตัวสร้างชื่อให่ทางโลตัสมากครับคือตัว O-season Plus ครับ ตัวนี้เป็นที่นอนสปริงระบบ Marshall Coil ซึ่งเป็นระบบสปริงที่การทำงานคล้าย ๆ กับตัว Super Bonnel Coil  นะครับแต่เป็นตัว ซีลี่สูงครับ...ซึ่งจะเน้นการกระจายน้ำหนักที่ดีมากครับ เน้นความแน่น และที่สำคัญในเร้นราคา ไม่เกิน 20000 ตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นนึงที่ทางโลตัสทำออกมาดีมากครับ ๆ คือผิวหน้ามียางพาราหนา 1 นิ้วครับ ทั้ง 2 ด้วย และเน้นนะครับเสริมยางพาราหนา 1 นิ้และเสริมจริงนะครับ และที่สำคัญพี่ครับของแถมมาแบบครบมากครับ ซึ่งตัวนี้เรียนพี่ตามตรงครับเนื่องจากฟิวและราคามาแรงมากแต่จะรู้จันกันดีในกลุ่มเล็ก ๆ เงียบ ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่เรีนยพี่ตามตรงครับ หาข้อมูลแบบสุด ๆ ครับ ถึงเลือกตัวนี้ เพราะเป็นรุ่นเดียวที่ให้มาครบทุกอย่างในราคาถูกมาก ๆ ไม่เกิน 20000 ครับ ซึ่งพอขายดีแบบนี้ที่อื่น ๆ ก็สนใจครับ ทาโลตัสเลยแยกรุ่นนี้ออกไป หลายชื่อเลยครับ อย่างเช่น รุ่น Lamport Fortree Vernett ครับซึ่งชื่อพวกนี้คือรุ่นเดียวกับ O-season Plus นะครับ ทุกอย่างเหมือนกันต่างที่ชื่อครับ ซึ่งตรงนี้ถ้าเทียบจริง ๆ ตัวนี้สามารถชนตัว เนเจอร์ทัสของสลัมเบอร์แลนได้เลยนะครับ ซึ่งฟิวเหมือนกันไม่ต่างครับ แต่พี่ครับที่ต่างเลยคือหน้าตาตัวที่นอนที่ O-season Plus หล่อกว่าครับและเย็บแบบไม่มีขอบที่นอนครับ และผ้าเป็นตัวผ้านิดติ้งเน้นการยิดหยุ่นของตัวที่นอนและเน้นระบายอากาศได้ดีมากด้วยครับ ลองดูนะครับผม

 
........................................................................................................................
 
 

ตัวนี้บอกเลยว่า ตัว ชูโรง และเป็นตัวสร้างชื่อและยอดขายดีที่สุดในที่นอน lotus เลยก็ว่าได้ครับ ของมาเท่าไหร่ก็ ผลิตไม่ทันความต้องการของผู้ใช้ครับ ซึ่งฟิวทุกอย่าง

กัดติดยางพาราในราคา เบา ๆ ครับ

 
 
และอีก 1 ตัวที่ถือว่าเป็นรุ่นที่ดังมากและเป็นตัวสร้างชื่อเลยคือตัว โลตัว รุ่น รอเยออร์แคริฟอเนียครับ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 ตัวนี้เป็นที่นอนที่ถือว่าทำออกมาดีมาก ๆ ครับ ฟิวการนอนเทียบเท่าที่นอนยางพาราแท้ ๆ เลยครับ ....เพราะตัวนี้เป็นยางพาราสังเคราะผสมยางพาราแท้ ๆ ตรงผิวหน้าตัวที่นอนครับ ซึ่งการนอนการนั่งตัวนี้ถือว่ารองรับได้ดีมากครับ ยิ่งพี่ผู้นอนชอบที่นอนแน่น ๆ ด้วยแล้วหรือพี่ผู้นอนมีน้ำหนักที่หนักแบบ 90-100 กก บวก ๆ ตัวนี้เน้นการรองรับได้ดีมาก ๆ ครับ เอาเป็นว่าเวลานอนลงไปแล้วนิ่งมากครับ ไม่มีเด่ง ไม่มีโยน และแน่นอนว่ากัยพี่ผู้นอนที่น้ำหนักต่างกันเยอะ เวลานอนลงไปแล้วไม่มีคำว่าไหลนะครับ คำว่าไหล่คือ คนที่น้ำหนักน้อยจะไหลไปหาคนที่น้ำหนักมากครับ ซึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นกับการนอนที่ผู้นอนน้ำหนักต่างกันเยอะ ๆ ครับผม  และแน่นอนครับเรื่องฟิวการนอนเทียบเท่ายางพาราแท้ ๆ แน่นอนครับเรื่องการรองรับถือว่าดีมาก ๆ ครับ สำหรับพี่ที่เน้นหนักเยอะ ๆ ที่นอนตัวนี้ดันหลังและพยุงหลังได้ดีมากครับผม  ซึ่งตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ดังมาก ครับที่ทางโลตัสทำออกมาดีมากคุ้มค่าเกินราคาครับ ซึ่งสเป็กตัวนี้เรียนพี่ตามตรงครับ ราคาค่าตัว หมื่นกว่า แต่สเป็กกินเกินไปถึงตัง 2 หมื่นปลายถึง 3 หมื่นต้น ๆ เลยครับผม พี่ลองดูนะครับผม
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

ถ้าพี่พี่ท่านไหน  มีปัญหาหรือข้อสงสัยเรื่องที่นอน 

หรือต้องการคำแนะนำเบื่องต้นของหลักการเลือกซื้อที่นอน พี่สามารถเข้ามาตาม ลิ้ง ข้างล่างได้เลยนะครับ

 

http://pantip.com/topic/33656834

 

เป็นกระทู้ที่ผมให้ความรู้ และมีการถามตอบเกรี่ยวกับข้อสงสัยในเรื่องของที่นอนโดยเฉพาะครับผม

หรือสามารถโทรมาคุยได้ที่ 084-076-7991 ครับผม